< Previous Tobias Moers และทีมมีค�าถาม เกิดขึ้นมากมายระหว่างที่พวก เขาพัฒนารถยนต์อันเป็น ‘สุด ยอด’ รุ่นนี้ เพราะการหยิบเอา เทคโนโลยี F1 มาใส่ให้รถยนต์ที่ วิ่งบนท้องถนนนั้นไม่เคยมีมา ก่อน Product of an unusual collaboration: เครื่องยนต์ 500 กิโลวัตต์ถูกบดบังด้วยระบบ ระบายอากาศด้านหลังรถ ซึ่ง เป็นสิ่งที่ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Formula 1 จาก Mercedes-AMG High Performance Powertrains ใน Brixworth ให้การสนับสนุน Mercedes-Benz “เรากำาลังก้าวสู่มิติใหม่ไปพร้อมกับ Project One ” 40Mercedes-BenzMercedes41September 2018Mercedesประสบความส�าเร็จอย่างมาก ในอดีต Cowell เคย เปรยๆ อยู่เหมือนกันว่าน่าจะใส่เครื่องยนต์ Formula 1 ลงในรถสปอร์ตได้ตามกฎหมายโดยไม่ ต้องท�าการการดัดแปลงมากมายจนเกินไป และ ตอนนี้ Mercedes-AMG ใน Affalterbach ก็เกิด ค�าถามสนุกๆ เหมือนกันว่าสามารถท�าได้หรือไม่? และแล้วโครงการก็เริ่มต้นขึ้น การเผยโฉมครั้งแรก นั้นถูกน�าเสนอในงาน IAA 2017 เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปีของ Mercedes-AMG “มันอาจจะเป็นความ คิดที่บ้าคลั่งที่สุดเท่าที่ผมเคยมีมา” Tobias Moers หัวเราะออกมา เบื้องหน้าของเขาคือยานยนต์ ทดลองที่เกิดขึ้นจากแนวคิดเริ่มต้นที่ว่านี่คือสุดยอด ของ AMG ซึ่งพวกเขาเรียกมันว่า ‘Project One’ Moers เดินไปรอบๆ รถสองที่นั่งคันใหม่ และพูดถึง รายละเอียดของรถสปอร์ตที่คาดว่าจะสร้าง ประวัติศาสตร์ให้กับบริษัท การน�าเทคโนโลยี Formula 1 มาใช้บนถนนอย่างนี้เป็นอะไรที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ริงๆ แล้วความฝันครั้งนี้เริ่มต้นจาก บรรดาลูกค้า เมื่อ Tobias Moers เดิน ทางไปทั่วโลกและลูกค้าจ�านวนมาก บอกกับเขาว่าพวกเขาต้องการให้ AMG ท�าอะไรบางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นั่นก็คือรถสปอร์ต ที่โหด เร็ว และแรง กว่าอะไรก็ตามที่เมอร์เซเดส- เบนซ์ได้เคยสร้างมา พวกเขาต้องการรถที่ ‘สุดยอด’ และเป็น ‘AMG ที่แท้จริง’ หัวหน้าของ Mercedes-AMG ยินดีที่ได้ฟังเรื่องนี้ แต่ เมื่อย้อนกลับไปเมื่อห้าปีก่อน บริษัทก็มีแผนการอื่นๆ อย่างโครงการ Mercedes-AMG GT แต่เขาก็บอกว่า “แต่ผมก็ไม่เคยลืมรถที่ ‘สุดยอด’ ของเรา” ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือโชคชะตา หลังจากนั้น Moers ได้โทรหา Andy Cowell กรรมการผู้จัดการ บริษัท Mercedes-AMG High Performance Powertrains (HPP) ใน Brixworth โดย HPP พัฒนา เครื่องยนต์ Formula 1 ให้เมอร์เซเดส-เบนซ์จน Tobias Moers และทีมมี ค�าถามเกิดขึ้นมากมาย ระหว่างที่พวกเขาพัฒนา รถยนต์อันเป็น ‘สุดยอด’ รุ่นนี้ เพราะการหยิบเอาเทคโนโลยี F1 มาใส่ให้รถยนต์ที่วิ่งบนท้อง ถนนนั้นไม่เคยมีมาก่อน ครีบฉลามสีด�าบนหลังคา AMG Project One ไม่ใช่ เพียงแค่งานออกแบบที่โดด เด่นเท่านั้น มันยังช่วยท�าให้ เกิดความมั่นคงในแง่ของแอโร ไดนามิกส์ขณะที่รถขับเคลื่อน ด้วยความเร็วด้วย AMG เลือกใช้แนวการ ออกแบบที่นิ่งสงบ เพื่อถ่วง ดุลกับสมรรถนะของรถอัน ว่องไวและดุดัน จ “รถรุ่นนี้ทำาให้มีแนวคิดที่แสนจะแตกต่าง” 42Mercedes-BenzMercedesมีการผลิตเพียง 275 คันเท่านั้น และทุกคันมีเจ้าของ แล้ว ถึงแม้จะมีราคาสุทธิอยู่ที่ 2.275 ล้านยูโร Project One นั้นเป็นรถที่มีความสุดยอดมากเมื่อ ดูข้อมูลทางเทคนิค ความเร็วสูงสุดที่มากกว่า 350 กม./ชม. ก�าลังเครื่องยนต์มากกว่า 1,000 แรงม้า อัตราเร่ง 0 ถึง 200 กม./ชม. ภายในเวลาไม่เกิน 6 วินาที เครื่องยนต์ Formula 1 สามารถท�างานได้ถึง 11,000 รอบต่อนาทีซึ่งเป็นสถิติสูงสุด นอกจาก เครื่องยนต์หลักแล้วยังมีเครื่องยนต์เบนซินแบบ ไฮบริดขนาด 1.6 ลิตร V6 ที่จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า จ�านวน 4 ตัว ตั้งไว้ในเทอร์โบชาร์จเจอร์หนึ่งตัว ใน เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ท�างานบนเพลาข้อเหวี่ยง หนึ่งตัว และอีกสองตัวบนเพลาหน้า สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลทางเทคนิคเท่านั้น แต่สิ่งที่ค่อน ข้างยากที่จะอธิบายก็คือมนต์เสน่ห์ ความรู้สึกที่เกิด ขึ้นจาก Mercedes-AMG Project One คือแทบจะ ไม่มีองค์ประกอบไหนในรถคันนี้ที่ไม่สุดโต่งในทางใด ทางช่องรับอากาศเล็กน้อยแทนที่จะติดตั้งมันลงบน หลังคาโดยตรง เพื่อช่วยให้อากาศพลศาสตร์ดีขึ้น Gorden Wagener หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายออกแบบ ของ Daimler AG กล่าวกับ Moers ว่า “ถ้าคุณ จ�าเป็นต้องท�าแบบนั้น ก็ท�ามันไปเลย” เมื่อมองครั้งแรก รูปทรงของรถชวนให้นึกถึงปลา ฉลามที่มีทรงพลังแต่เพรียวบาง มีครีบบนหลังคา และบานเกล็ดระบายอากาศแบบปรับได้ที่ซุ้มล้อ หน้าซึ่งมีลักษณะคล้ายเหงือกของฉลาม การ ออกแบบที่เรียบง่ายถูกเลือกใช้ เพื่อสร้างความ สมดุลกับเทคโนโลยีขั้นระดับสูงมากมายที่น�ามาใช้ ที่นั่งนั้นหุ้มด้วยหนังนิ่มๆ และสามารถปรับเอนพนัก พิงหลังได้ โดยผู้ขับจะได้จับพวงมาลัยรูปทรง กระบอก F1 อย่างกระชับมือ ส่วนการตกแต่งภาย มีแต่อุปกรณ์ที่จ�าเป็น เช่นมีหน้าจอควบคุมสองจอ ส�าหรับระบบ Infotainment กระจกมองหลังที่จริงๆ แล้วเป็นหน้าจอทีวีที่แสดงภาพจากกล้องด้านนอก เช่นเดียวกับการออกแบบภายนอก ภายในของรถ นั้น ไม่ได้ออกแบบมาให้เตะตา แต่มัน ทางหนึ่ง “เราก�าลังเข้าสู่ดินแดนใหม่ด้วยรถคันนี้” Moers กล่าว หลายชิ้นส่วนท�าจากคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อช่วยลดน�้าหนัก ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเป็นส่วน หนึ่งของตัวถัง (monocoque) หรือแม้แต่ระบบ ระบายความร้อน วัสดุคาร์บอนถูกใช้มากมายส�าหรับ ภายในและฝากระโปรง ชิ้นส่วนเครื่องยนต์บางชิ้นได้ รับการออกแบบมาอย่างประณีตมากขนาดที่ต้องผลิต ด้วยการใช้ 3D Printer พูดได้ว่ารถคันนี้เต็มไปด้วย กล้ามเนื้อจนไม่มีใขมันสักหยดเลยทีเดียว Smooth and powerful รายละเอียดทุกอย่างถูกปรับให้เหมาะกับหลัก อากาศพลศาสตร์เพื่อให้มั่นใจว่ารถจะวิ่งไปบนพื้น ถนนได้อย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ครีบ อากาศซึ่งประกอบด้วยช่องรับอากาศรูปไข่ที่ติดตั้ง บนหลังคาและยืดออกด้านหลังของรถนั้นช่วยเพิ่ม สัมผัสที่น่าสนใจให้กับภายนอกที่มีรูปทรงหยดน�้า และที่ส�าคัญมันช่วยเพิ่มเสถียรภาพด้านข้างในขณะ ขับขี่ด้วยความเร็วสูงได้ มีการตัดสินใจที่จะยกปากเป็นการออกแบบที่สะอาดซึ่งช่วยให้การขับขี่ท�าได้ ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ “เราได้ค�านึงถึงทุกอย่างจากมุมมองของผลิตภัณฑ์” Moers กล่าว “เราจัดระเบียบทุกอย่างตามที่ตั้งใจ ไว้” แนวทางนี้ฝังอยู่ใน DNA ของแบรนด์ แต่ โครงการ Mercedes-AMG Project One นั้นเป็น จุดเปลี่ยนที่ส�าคัญอีกด้วย การใช้ระบบขับเคลื่อน EQ Power ผสานเข้ากับ ระบบ plug-in hybrid ประสิทธิภาพสูงบ่งบอกถึง ทิศทางที่ Mercedes-AMG ต้องการเดินไป เทคโนโลยีของเครื่องยนต์เผาไหม้นั้นก�าลังสุกงอม ความท้าทายในขณะนี้คือการรวมเทคโนโลยีไฮบริด และเทคโนโลยีไฟฟ้าใหม่ๆ และนั่นไม่ใช่ความ ท้าทายข้อเดียว บริษัทจากเมือง Affalterbach นี้ ยังเป็นผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีเมื่อพูดถึงรถยนต์ใน ซีรีส์ต่างๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ด้วย จิตวิญญาณและสาระส�าคัญของ Mercedes-AMG จะปรากฏเด่นชัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรถไฮเปอร์ คาร์เข้าไปวิ่งในสนาม Nordschleife และการ แข่งขันอื่น ๆ ของโลก รวมถึงระหว่างการขับขี่ใน ชีวิตประจ�าวันด้วยโหมด comfort ของรถด้วยเช่น กัน ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะขับ Mercedes-AMG Project One ออกสู่ท้องถนนในบ่ายวันอาทิตย์อย่าง ชิลๆ ในอนาคตได้ใช่ไหม? “แน่นอน” Tobias Moers ยิ้มในขณะที่เขาเสริมว่า “ถ้ามีใครคิดที่จะ ท�าแบบนั้น” Mercedes-AMG Project One (เป็นรถยนต์ส�าหรับจัดแสดงเท่านั้น ไม่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้) จ�านวนการผลิต 275 คัน (และจองเต็มหมดแล้ว) ความเร็วสูงสุด มากกว่า 350 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0 - 200 กม./ชม. น้อยกว่า 6 วินาที System output มากกว่า 740 กิโลวัตต์ (เครื่องยนต์สันดาป + มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว) ราคา €2,707,250 (รวม VAT) ด้านหลังอันงดงามของ รถยนต์อันเป็น ‘สุดยอด’ รุ่น นี้ดูเหมือนทิวเขา แม้จะมี สมรรถนะเครื่องยนต์อัน อัศจรรย์ 11,000 รอบต่อ นาที แต่ Mercedes-AMG Project One ก็สามารถขับขี่ บนท้องถนนทั่วไปได้แบบ สบายๆ ข้อมูลเพิ่มเติมที่ mbmag.me/ amgprojectone Hendrik Lakeberg รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับ AMG Project One มาก และในฐานะแฟนของ AMG เขาก็อยากกลับไปเยือน Affalterbach อีกครั้ง ในเร็ววัน 44Mercedes-BenzMercedesในยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเดินทางอย่างรวดเร็วแบบนี้ เราดูแลสิ่งที่มีค่าที่สุดของเรา ซึ่งก็คือ ‘เวลา’ กันอย่างไร? และนี่คือบทสัมภาษณ์ Christoph Grainger-Herr CEO บริษัทผลิตนาฬิกาอนาล็อก เรือนหรูอย่าง IWC เกี่ยวกับเรื่องของ ‘เวลา’ บทสัมภาษณ์: RÜDIGER BARTH ภาพ: IWC, PETER RIGAUD Imagine THE SPIRIT OF THINGS 46Mercedes-BenzMercedesนาฬิการะบบกลไกสุดพิเศษ พร้อมส่วน ประกอบพิเศษทั้งหมดจาก IWC นับเป็น ความสามารถของวิศวกรจริงๆ ที่ท�าการ รวมเอาวัตถุไร้ชีวิตนี้เข้าด้วยกัน แล้วเสก ให้มันมีชีวิตขึ้นมาได้Christoph Grainger-Herr รับต�าแหน่งเป็น CEO ของ บริษัทนาฬิกาสวิสอันเก่าแก่นี้ มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2017 “IT’S A LUXURY NOT TO HAVE TO KEEP CHASING EVERYTHING” 48Mercedes-BenzMercedesท�างาน ผมวิ่งเข้าไปในเมือง และนั่น ก็คือเวลาที่ผมได้คิดทบทวนสิ่งต่างๆ มองหาสิ่งใหม่ๆ รอบตัว และเกิดไอเดีย ใหม่ๆ ขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าผมมัวแต่นั่งอยู่ที่โต๊ะท�างาน ผม ต้องการช่วงเวลาที่ไร้การสื่อสารบ้าง ในธุรกิจนาฬิกา รวมทั้งธุรกิจอื่นๆ มันไม่ใช่แค่บริหารต้นทุนให้ต�่าที่สุด แต่ไอเดียใหม่ๆ ต่างหากที่ส�าคัญ และมันก็ต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่จะ เป็นไปได้ วงจรของผลิตภัณฑ์นั้น เกิดขึ้นและดับไปอย่างรวดเร็วอยู่ ตลอดเวลา เราเคยผลิตนาฬิกาที่ จ�าหน่ายมาได้ตลอด 25 ปี แล้วค่อย มาคิดว่ารุ่นต่อไปควรจะเป็นยังไง แต่เดี๋ยวนี้แค่ 5 ปีเราก็ต้องเปลี่ยน ดีไซน์ใหม่แล้ว เราต้องปรับตัวให้เข้า กับจังหวะที่เปลี่ยนไปนี้ คิดว่านาฬิกาอนาล็อกแบบไหนที่ยัง เหมาะกับยุคสมัยนี้ ที่ IWC ส่วนใหญ่ยังคงชื่นชอบนาฬิกา คลาสสิกสไตล์ผู้ชายมากกว่า จริงๆ แล้วสาวๆ หลายคนก็ชื่นชอบอะไร แบบนี้เช่นกัน จิตวิญญาณและงาน วิศวกรรมอันประณีตนั้นเป็นหัวใจ ส�าคัญของมัน สิ่งที่เรามอบให้กับผู้คน นั้นสร้างขึ้นจากความแม่นย�าและการ คิดค้นสิ่งใหม่ๆ เสมอ เพราะคนที่ใช้ นาฬิกาของเราอาจจะเป็นใครก็ตามที่ ต้องพึ่งพาเวลาเป็นอย่างมาก นับ ตั้งแต่นักขับรถแข่ง Formula 1 กัปตัน ขับเครื่องบิน นักวิจัย หรือนักด�าน�้า งานวิศวกรรมอันประณีต ความเสี่ยง และความโรแมนติก ทั้งหมดดูย้อน แย้งกัน มันรวมเข้ากันได้จริงไหม ความย้อนแย้งนั่นเป็นสิ่งที่ดีที่ ท�าให้แบรนด์แข็งแรง เหมือนอย่างที่ เมอร์เซเดส-เบนซ์และพาร์ตเนอร์ของ เราอย่าง Mercedes-AMG ท�า ทั้ง เหตุผลและอารมณ์มันไปด้วยกันได้ ความต่างคนละขั้วนี่เองที่เป็นจุดที่ ท�าให้น่าสนใจ รวมถึงเป็นสารตั้งต้น ส�าหรับการพัฒนาไอเดียของเราด้วย Grainger-Herr เป็นแฟนตัวยง ของ Mercedes-AMG และเขาก็ ขับ CLS 53 ออกไปหลังให้ สัมภาษณ์เสร็จ รถยนต์สี่ประตูที่อัดแน่นไปด้วย พลัง: AMG CLS 53 กับการ เดินทางไปที่ Schaffhausen Seamlessly integrated: นาฬิกาเรือนคลาสสิกที่ล้อม รอบด้วยระบบดิจิทัล บน คอนโซลหน้าของ new coup é กวิทยาศาสตร์บอกว่า คนเรารับรู้ปัจจุบันขณะ ได้ยาวนานที่สุดคือ 3 วินาที ถ้าก่อนหน้านี้จะ เป็นอดีตหรือความทรงจ�า ส่วนถ้าหลัง จากนี้คืออนาคตหรือความคาดหวัง คุณคิดว่าจริงไหม ก็เป็นความคิดที่น่าสนใจดีนะ แต่ไม่ว่า จะเป็นวินาที ชั่วโมง หรือหน่วยอะไรที่ เราคิดขึ้นมาเพื่อก�าหนดเวลา ก็ล้วน เป็นกระบวนการทางสังคม เป็นโครงสร้าง ที่ประดิษฐ์ขึ้น เหมือนๆ กับปฏิทิน ที่ไว้ จัดการชีวิตของคนเรา ที่ IWC เอง เราก็ถามตัวเองกันอยู่บ่อยๆ นะว่า ถ้านักส�ารวจก้าวลงบนดาวอังคารแล้ว เราควรจะคิดเรื่องการสร้างนาฬิกาที่ใช้ดู เวลาของจักรวาลบ้างไหม นาฬิกาแบบ ไหนที่คนจะเอาไปใช้บนดาวอังคารได้ เพราะในโลกของดาราศาสตร์ หนึ่งวัน นั้นมีมากกว่า 25 ชั่วโมง เวลาถือว่าเป็นมิตรหรือศัตรูส�าหรับคุณ แน่นอนว่าไม่ใช่ศัตรูหรอก เราเลือกที่ จะท�าสิ่งต่างๆ ในเวลาที่เราเลือกจะ ท�าได้ แล้วเราก็มีความสุขกับการใช้ เวลาอย่างเต็มที่ในทุกๆ วัน คุณเคยบอกว่าการเปลี่ยนแปลงจาก ศตวรรษที่ 19 มาสู่ศตวรรษที่ 20 นั้น เป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจ คุณคิดไหมว่า ตอนนี้เราก็ก�าลังก้าวเข้าสู่จุดเปลี่ยน ผ่านอีกครั้ง การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและผลของ มันเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น แต่ต้อง ยอมรับว่าปัจจุบันนี้เราก็ชัดเจนกัน มากขึ้นว่าเราจะท�าอะไรและเรา ต้องการอะไร ย้อนไปสมัยยุค เศรษฐกิจรุ่งเรืองของเยอรมนี ที่เรียก ว่า ‘Grunderjahre’ ตอนที่ก�าลังจะ ก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ เราเคยถูกท�าให้ เชื่อว่าอนาคตจะสดใส ถ้าเราใช้ เครื่องจักร เราจะสามารถพัฒนา คุณภาพชีวิตของทุกคนได้ แล้วหลัง จากนั้น ผู้คนก็เชื่อเรื่องรถที่บินได้และ พลังงานนิวเคลียร์ด้วยซ�้า ซึ่งถือว่าไร้เดียงสาใช่ไหม เมื่อมอง จากปัจจุบันย้อนกลับไป แน่นอน ความเชื่อความหวังทั้งหมด นี้พังทลายไปในช่วง 1980s เมื่อเรา ตระหนักว่าเราจ�าเป็นต้องคิดมากขึ้น เรื่องการใช้ทรัพยากรของเรา ตอนนี้ เราเริ่มไม่แน่ใจแล้วกับความก้าวหน้า แบบก้าวกระโดดกันแล้ว เมื่อเทียบกับ เมื่อ 100 ปีก่อน ในฐานะที่คุณท�างานอยู่ในอุตสาหกรรม ที่แม้แต่เสี้ยววินาทียังมีความหมาย คิดว่าท�าไมคนส่วนใหญ่ถึงรู้สึกว่าเวลา ของพวกเขาผ่านไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งที่เรามีเครื่องมือดิจิทัลมากมายที่ จะช่วยเราประหยัดเวลาได้ ผมคิดเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ เวลาที่มีสิ่งที่ น่าสนใจมากมายรอบตัวเรา เราก็มัก แต่จะสนใจที่จะเสพมันมากกว่าที่จะ รู้สึกว่าอยากสร้างอะไรขึ้นมาเอง ก่อน หน้านี้ ถ้าคุณส่งจดหมายไปอเมริกา ก็ต้องใช้เวลาหลายวันในการรอค�า ตอบ และช่วงเวลาเหล่านั้นเองที่ท�าให้ คุณได้คิดทบทวน แต่เดี๋ยวนี้คือ ข้อความถูกโต้ตอบกันภายในไม่กี่ วินาที และเราก็แทบไม่มีเวลาที่จะ คิดถึงสิ่งที่ส่งหรือพูดไปแล้วเลย เพราะทุกอย่างเกิดขึ้น ณ ขณะนั้น มัน ไม่ค่อยมีเวลาให้เราหยุดนิ่ง ซึ่งการ หยุดนิ่งนี่บางทีก็เป็นจุดเริ่มต้นของ ความคิดสร้างสรรค์ คือเราไม่มีเวลาว่างมากพอเหรอ ก็ใช่ นึกย้อนกลับไปสมัยผมเด็กๆ ไอ เดียดีๆ มักจะผุดขึ้นมาตอนที่ผมรู้สึก ว่างๆ เบื่อๆ เมื่อตอนที่ยังไม่มีเกม คอมพิวเตอร์หรือโซเชียลมีเดีย ผมมี เวลาที่จะคิดถึงโลกใบนี้มากกว่านี้ บางทีก็อาจจะจินตนาการอะไรสนุกๆ จริงๆ ตอนนี้ก็อาจจะดีเหมือนกัน ถ้า มีโอกาสตัดการเชื่อมต่อเหล่านี้ไปบ้าง คุณมีโอกาสที่จะท�าแบบนั้นบ้างไหม มีสิ ตอนที่ผมสวมรองเท้าแล้ววิ่งออก ไปตอนเช้าเวลาที่ผมเดินทางไปที่ ต่างๆ หรือไม่ก็ช่วงเย็นหลังวัน นั 49September 2018MercedesNext >