< Previousเรื่อง/ภาพ : GGONJOURNEY เสพศิลป์ กินซานเกรีย ณ เมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ¡Hola! Barcelona!หากใครมาเดินบนถนนที่นี่ แล้วอดใจไม่ได้ต้องยก โทรศัพท์จับภาพอาคารบ้านเรือนที่สวยงามแปลกตา ลงไอจี ก็ต้องยกความดีความชอบให้ชายคนนี้ ชาย ผู้มีนามปรากฏทั่วทั้งเมืองว่า ‘Antoni Gaudí’ Nice to meet you, Gaudí Antoni Gaudí สถาปนิกคนส�าคัญที่ท�าให้บาร์เซโลนา กลายเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีสีสันทางวัฒนธรรมที่ส�าคัญ แห่งหนึ่งของโลก เขาตกแต่งพื้นและผนังด้วยเซรามิก หลากสี เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันสดใส พร้อมน�าเอา รูปทรง เส้นโค้ง และการลบเหลี่ยมต่างๆ ในแบบอย่าง ของศิลปะแนว Art Nouveau มาใช้กับงาน จนท�าให้ รูปร่างของสิ่งก่อสร้างและงานศิลปะของเขาดูแปลกตา อร้อนของแดดยามบ่ายแข่งกับความเย็นของ ลมทะเล สลับกันเข้ามากระทบผิวแก้ม ขณะ ก�าลังเดินเล่นริมชายหาด พฤษภาคมนับเป็น ช่วงเวลาที่เหมาะสมไม่น้อยส�าหรับการมาเดิน เล่นที่ ‘บาร์เซโลนา’ ชื่อที่รู้จักในฐานะทีม ฟุตบอลก่อนจะรู้ว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ สองของสเปนเสียอีก นอกจากอากาศและบรรยากาศสบายๆ ชวนพัก ผ่อนหย่อนใจในฐานะเมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ที่เป็นเหตุผลข้อแรกที่ท�าให้เมืองนี้น่ามาเยือนแล้ว สถาปัตยกรรมที่สวยแบไม่คุ้นตา รวมถึงประวัติศาสตร์ ภาษา และวัฒนธรรมในฐานะเมืองหลวงของแคว้น คาตาลัน ก็ยังเพิ่มเสน่ห์ของบาร์เซโลนาให้มากขึ้น อีกหลายเท่าตัว ไ 72Mercedes-BenzMercedesความเจ๋งของที่นี่ ก็คือการรับชมรายละเอียดของบ้าน ผ่าน 3D Visual ในสมาร์ทโฟนที่แจกให้ ท�าให้เห็น สภาพในสมัยก่อนตอนคนอยู่จริงๆ แถมรู้สึกเป็นส่วน หนึ่งของบ้านได้อย่างน่าประหลาดใจ รวมถึงต้องอ้า ปากค้างให้กับเส้นสายและลวดลายพลิ้วไหว ซึ่ง ปรากฏให้เห็นทั้งบนเพดาน ผนัง และพื้นห้อง กระทั่ง กรอบหน้าต่างหรือบานประตู ไล่ดูจากชั้นล่างสุดไป จนถึงดาดฟ้า ก็มองเห็นบ้านหลังต่อไปที่ตั้งใจว่าจะ ไปเยือน ‘Casa Milà’ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ La Pedrera ที่มีวิธี คิดและการออกแบบที่โดดเด่นจนได้รับการยกย่องให้ เป็นมรดกโลก อาคารสูง 9 ชั้นหลังนี้เป็นบ้านและชุด ห้องพักของคนรวยเมื่อร้อยปีก่อน ที่เจ้าของบ้านผู้เป็น แฟนคลับของ Gaudi จ้างให้มาออกแบบให้ และใช้ เวลากว่า 5 ปี เพราะมีเรื่องราวถกเถียงกันมากมาย ระหว่างสภาเทศบาลเมือง นักออกแบบ และเจ้าของ บ้าน ไม่ต่างจากงานทุกชิ้นของ Gaudi ที่แรงบันดาลใจของ เขานั้นมาจากธรรมชาติ ตัวอาคารที่มีผนังโค้งเป็น คลื่น ระเบียงซึ่งมีลักษณะคล้ายถ�้า และตรงกลางเป็น ปล่องลึก คลื่น ภูเขา การทาสีผนังด้านในจึงให้ ผลงานชิ้นเอกของเขาคือ ‘Sagrada Familia’ (Sacred Family) หรือที่หลายคนให้ชื่อว่า ‘วิหารที่สร้างไม่ เสร็จ’ Gaudí ได้อุทิศ 16 ปีของบั้นปลายชีวิตในการ ฟูกฟักสร้างสรรค์มหาวิหารแห่งนี้ โดยตั้งใจจะสร้าง ให้มีหอคอยทั้งหมด 18 หอคอย ปัจจุบันสร้างเสร็จ ไปแล้วเพียง 8 หอคอย มหาวิหารแห่งนี้สร้างตามรูปแบบศิลปะนีโอโกธิค ด้วย แนวความคิดการคืนกลับสู่ธรรมชาติ ท�าให้เมื่อเข้าไป ดูด้านใน จะเห็นว่ารูปทรงและพื้นผิวต่างๆ มาจาก ธรรมชาติทั้งหมด นอกจากงานประดับตกแต่งที่วิจิตร บรรจงแล้ว ยังคูณเข้าไปด้วยขนาดที่ยิ่งใหญ่อลังการ ท�าให้ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ก็ยังด�าเนินการก่อสร้าง อยู่ โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2026 แต่ก็เปิด ให้เข้าชมได้ตามปกติ ไม่ไกลจากมหาวิหาร Sagrada Familia ก็มีอีกหนึ่ง ผลงานที่ Gaudi ทิ้งไว้ให้ดูชม นั่นก็คือ ‘Casa Batlló ’ บ้านของตระกูลบัตโล่ เศรษฐีธุรกิจสิ่งทอแห่งบาร์เซ โลน่าในอดีต ซึ่งจุดเด่นที่สวยงามอย่างมากก็คือ บริเวณหลังคาที่ได้ไอเดียมาจากหลังของมังกร ขณะ ที่กระเบื้องหลากสีสันนั้นก็คือเป็นเกล็ดมังกรที่เรียง สลับกันอย่างสวยงาม 73December 2018Mercedesบรรยากาศเหมือนอยู่ในทะเล เพดานทาสีเป็นรูป ดอกไม้สีสันสวยประหลาด การก�าหนดแสงสว่าง ให้ส่องทั่วถึงด้วยการทาสีผนังด้วยสีเข้มไปจนอ่อน เพื่อควบคุมความสว่างของห้อง หน้าต่างและระบบ ระบายอากาศธรรมชาติท�าให้ไม่ต้องใช้เครื่องปรับ อากาศ ส่วนดาดฟ้าก็มีนานารูปปั้นรูปทรงแปลกตา ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่ายืนอยู่บนผาสูงชันที่ชน เผ่าแอฟริกันสร้างเป็นถ�้าที่อยู่อาศัย สุดท้าย ขยับจากบ้านทั้งหลายที่ Gaudi วาด ลวดลายไว้ไปที่ ‘Park Güell’ ที่ขุนนางที่ชื่อว่า Eusebi Güell ตั้งใจจะออกแบบให้เป็นสวนส่วนตัว ของบ้านพักตากอากาศบนเนินเขาคาร์เมล ที่นี่ Gaudi ได้น�าเอาวิศวกรรมโครงสร้างอันแปลก ประหลาด รวมถึงรูปแบบต่างๆ จากธรรมชาติและ เรขาคณิตมาใช้อย่างสนุก ที่โดดเด่นสุดคงเป็นการ เอากระเบื้องสวยๆ มาทุบให้แตก แล้วหยิบมั่วมา ต่อใหม่ให้เป็นรูปทรงต่างๆ ด้วยความละเอียดละออ บวกกับไอเดียที่ก้าวล�้า ท�าให้ที่นี่ก็ได้รับการยกย่อง ให้เป็นมรดกโลกเช่นเดียวกัน It’s not only Gaudí แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า มาถึงบาร์เซโลนา ยังไงก็ต้อง เจองานของ Gaudi แต่ศิลปินชื่อดังอีกสองคนที่ฝาก ชื่อไว้ในเมืองนี้ ก็คือ Joan Miró และ Pablo Picasso Joan Miró เป็นศิลปินแนว Surrealistism เกิดที่ บาร์เซโลน่าแล้วค่อยย้ายไปปารีส ผลงานของเขา ส่วนใหญ่มักจะให้ความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวไป มาอย่างน่าประหลาด โดยใช้ลายเส้นที่พันกันชุลมุน และความสว่างสดใสของสี รวมถึงมีแนวทางที่ฉีก จากกรอบและกฎเกณฑ์เดิมๆ ท�าให้เขาได้รับการ ยกย่องและชื่นชมจากศิลปินทั่วโลกจ�านวนมาก ใคร ที่อยากรู้จักเขาและผลงานของเขาให้มากขึ้น แนะน�าให้ไปที่ Joan Miró Foundation พิพิธภัณฑ์ บนเนินเขา Montjuïc ที่อุทิศให้กับ Joan Miró ซึ่ง มีงานของเขาเก็บไว้กว่า 14,000 ชิ้น พูดถึง Montjuic ก็เป็นเนินเขาที่ทอดตัวยาว เหมือนเป็นปราการธรรมชาติในการป้องกันเมือง บาร์เซโลน่ามาตั้งเเต่เมื่อครั้งอดีต เเละมี 74Mercedes-BenzMercedesการก่อสร้างป้อมปราการขึ้นบริเวณเเห่งนี้มากมายหลาย ป้อมด้วยกัน เเต่กาลเวลาที่ล่วงเลยผ่านไป ก็ท�าให้เหลือ ป้อมอยู่ไม่กี่ป้อมเท่านั้นเอง หนึ่งในจุดที่น่าสนใจคือ Montjuïc Castle ปราสาทโบราณที่สร้างในเเบบนีโอบาโรค ซึ่งเป็นจุดที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองบาร์เซโลน่าได้ อย่างเต็มตา ขณะที่ทางด้านหน้าของเนินเขา ก็มี Font Magica ที่จะแปลงร่างเป็นน�้าพุหลากสีร่ายร�าในช่วงเวลา เย็นๆ อีกหนึ่งสถานที่ที่คนอยากเสพศิลปะแล้วมาถึงบาร์เซโลนา ไม่ควรพลาดก็คือ Museu Picasso ที่รวบรวมผลงานของ ศิลปินชื่อดัง Pablo Picasso ซึ่งอาศัยอยู่ที่บาร์เซโลนา ตั้งแต่เด็กและมีความผูกพันกับเมืองนี้อย่างมาก Jaume Sabartés ผู้ช่วยและเพื่อนสนิทของเขาเลยตั้งพิพิธภัณฑ์ แห่งแรกเพื่อจัดแสดงผลงานของเขาในอาคารหลังใหญ่ สไตล์โกธิคห้าหลังในย่านเมืองเก่าที่คึกคักไปด้วยผู้คน Viva Barca นอกจากความตื่นตาและตื้นตันใจในสถาปัตยกรรมและ งานศิลปะแล้ว บาร์เซโลนายังคึกคักไปด้วยความมีชีวิต ชีวาของผู้คนตามย่านต่างๆ อย่างถ้าไปเดินที่ La Ramblas หรือ El Born ตอนเย็นๆ ก็จะได้เจอร้านอาหารกลางแจ้ง ละลานตา พร้อมด้วยบทสนทนาที่ฉวัดเฉวียนอยู่กลาง อากาศ ขาดไม่ได้ส�าหรับการมาเยือนสเปน คืออย่าลืมจอง บัตรเข้าไปดูการแสดงเต้นระบ�าฟลามิงโกดูสักรอบ นอกจากบริเวณในเมืองแล้ว ชายหาดใกล้เมืองอย่าง Barceloneta ก็เหมาะเหลือเกินกับการไปหย่อนกายใน ยามบ่ายแก่ๆ ไม่ว่าจะชื่นชอบลมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กีฬาทางน�้า หรือบาร์ริมชายหาด ก็เป็นเหตุผลที่ดีทั้งนั้นที่ จะไปที่นี่ แสงสุดท้ายของบาร์เซโลนาก�าลังจะหมดไปแล้ว แสงไฟ นีออนจากบีชบาร์เริ่มท�างาน พร้อมกับเสียงเพลงที่ชวนให้ คึกคักหัวใจ ซานเกรียที่สั่งไว้ถูกวางข้างกาย ช่วงเวลาแห่ง การเสพศิลป์ กินซานเกรีย ณ เมืองริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อย่างบาร์เซโลนา คงจะตราตรึงในความประทับใจ ไปอีกนาน 76Mercedes-BenzMercedesเมื่อโลกการทำางานของนาฬิการะดับตำานานจาก Rolex หลอมรวมเข้ากับโลกของการแข่งรถ Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona ตัวเรือนผลิตด้วยเอเวอร์โกลด์ 18 กะรัต Special Editorial THE DRIVER’S WATCH บตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกในปี 2506 นาฬิกาประดับอัญมณี Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona ก็ได้ เป็นที่ร�่าลือในโลกแห่งกีฬามอเตอร์ สปอร์ตในฐานะนาฬิกาจับเวลาอันเลื่องชื่อ ล่าสุด Rolex ได้น�าเสนอเวอร์ชั่นใหม่ ท�าด้วยเอเวอร์โรส โกลด์ 18 กะรัต ตัวเรือนตกแต่งด้วยเพชรที่เจียระไนแบบเหลี่ยมเกสร 56 เม็ด ประกอบเข้ากับสลักตะขอและตัวครอบเม็ดมะยมหน้า ปัดโดดเด่นด้วยมาร์กเกอร์แสดงชั่วโมงประดับแซฟไฟร์ เจียระไนแบบสี่เหลี่ยมยาว 11 เม็ด แต่ละเม็ดเป็นสีเดียวกัน กับแซฟไฟร์ตรงขอบตัวเรือน ส่วนที่แสดงโครโนกราฟท�า จากคริสตัลทองชมพู ซึ่งเป็นวัสดุที่มีประกายวาวเป็นพิเศษ ผลิตขึ้นจากกระบวนการตกผลึกของโลหะผสมทองชมพู ด้วยวิธีการพิเศษ ที่ Rolex เป็นผู้พัฒนาขึ้น มั่นใจในความแข็งแรงและคงทนด้วยการรับประกันกา รกันน�้าที่ระดับความลึก 100 เมตร ด้านหลังตัวเรือน เป็นร่องและถูกขันสกรูปิดสนิทด้วยเครืองมือพิเศษ มีเพียงช่างท�านาฬิกาของ Rolex เท่านั้นที่เข้าถึงกลไก ภายในได้ เม็ดมะยมติดตั้งควบคู่กับระบบการกันน�้า สามชั้น (Triplock) ซึ่งยึดตัวเรือนไว้อย่างแน่นหนา พร้อมปุ่มกดจับเวลาคริสตัล ท�าจากแซฟไฟร์ที่ป้องกัน การขีดข่วน ตัวเรือน Oyster นี้ยังช่วยปกป้องกลไกการท�างานของ calibre 4130 กลไกการท�างานโครโนกราฟระบบไขลาน อัตโนมัติ เพื่อให้มีความแม่นย�าสูงสุด มีความคงทนอย่าง ยอดเยี่ยมแม้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงด้านอุณหภูมิ พร้อมกับโมดูลการไขลานแบบอัตโนมัติผ่านทางโรเตอร์ Perpetual และสามารถเก็บกักพลังงานส�ารองได้ประมาณ 72 ชั่วโมง Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona เวอร์ชั่นใหม่มาพร้อมกับสาย Oyster ข้อต่อแข็ง ท�าจากเอเวอร์โรสโกลด์ 18 กะรัต พร้อมขอบเซรามิก และตะขอนิรภัยแบบ Oysterlock เพื่อป้องกันการเปิด โดยไม่ตั้งใจ รวมถึงระบบ Easylink ซึ่งเป็นกลไกขยาย ความยาวของสายที่ท�าให้สามารถปรับเพิ่มได้อีก ประมาณ 5 มม. เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้สวมใส่ เช่นเดียวกับนาฬิกาทุกเรือนของ Rolex เวอร์ชั่นใหม่ของ Rolex Oyster Perpetual Cosmograph Daytona ได้ รับใบรับรอง Superlative Chronometer ซึ่งรับประกัน ประสิทธิภาพการท�างานอันเหนือชั้นเมื่อสวมใส่บนข้อมือ รวมทั้ง การรับประกันในระดับนานาชาติอีก 5 ปี นั 77December 2018Mercedesเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวแรงรับท้าย ปีด้วยรถยนต์ 3 รุ่น พร้อมชวน ทดสอบทัพ Mercedes-AMG แบบ ครบตระกูลเป็นครั้งแรก เรื่อง/ภาพ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จ�ากัด Mercedes-AMG Driving Experience 2018 เพื่อตอกย�้าภาพการเป็นผู้ผลิตรถสปอร์ตสายพันธุ์แรงระดับแถวหน้าของโลก เมอร์เซเดส-เบนซ์เปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่น พร้อมจัดกิจกรรม Mercedes-AMG Driving Experience 2018 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย กับการขนทัพรถยนต์ สปอร์ตสมรรถนะสูงภายใต้แบรนด์ Mercedes-AMG ครบทั้งตระกูลในทุก เซ็กเมนต์ พาสื่อมวลชน และลูกค้าก้าวข้ามขีดความสามารถขึ้นไปอีกขั้น ด้วย การเรียนรู้เทคนิคการขับขี่แบบเต็มสมรรถนะกับทีมผู้ฝึกสอนมืออาชีพ ดีกรีแชมป์ การแข่งขันมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 13 - 21 ตุลาคม 2561 กิจกรรม Mercedes-AMG Driving Experience 2018 ได้แบ่งผู้เข้ารับการอบรม ออกเป็น กลุ่มต่างๆ และแบ่งการทดสอบออกเป็น 4 สถานี พร้อมแบบฝึกหัด สุดท้าทายในการขับขี่แบบเต็มสนาม โดยผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับประสบการณ์ จริงจากการฝึกทักษะแต่ละด้าน และได้รับทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับจาก สมรรถนะอันยอดเยี่ยม เทคโนโลยี และนวัตกรรมอันก้าวล�้า ซึ่งถือเป็นหัวใจ หลักของแนวคิดในการผลิตรถยนต์ Mercedes-AMG ทุกรุ่น ซึ่งหลังจากเสร็จ สิ้นการฝึกทุกฐานแล้ว ผู้ขับขี่จะมีความเข้าใจและสามารถใช้ประโยชน์จาก สมรรถนะ และเทคโนโลยีอันทันสมัยที่มาพร้อมกับตัวรถได้อย่างเต็มที่ 78Mercedes-BenzMercedesอีกหนึ่งความพิเศษคือการเปิดตัวรถยนต์ 3 รุ่นยอดนิยม ได้แก่ Mercedes-AMG C 43 4MATIC Coupé รุ่นประกอบในประเทศ ที่มาพร้อมกับรูปโฉมใหม่ของ ตระกูลซี-คลาส และการยกระดับสมรรถนะ ด้วยการพัฒนาด้านอากาศ พลศาสตร์ รวมถึงเพิ่มเติมความหรูหราและความสปอร์ตภายในห้องโดยสารให้ โดดเด่นกว่าที่เคย Mercedes-AMG E 63 S 4MATIC+ รถยนต์ตัวแรงที่สุดที่เคย มีมาในรถยนต์ตระกูล E-Class ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร 612 แรงม้า เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.4 วินาที และสุดท้าย กับ Mercedes-Benz C 200 Coupé AMG Dynamic รุ่นประกอบในประเทศ ยนตรกรรมสไตล์สปอร์ตคูเป้เจนเนอเรชั่นล่าสุดในกลุ่ม Dream Car 79December 2018MercedesNext >