สิ ่ งบ่งชี ้ ทางภูมิศาสตร์ไทย วารสาร ฉบับที ่ 7 เดือนเมษายน 2567 THAI RICE, THE FLAVORS OF THAILAND ข้าว GI เสน่ห์รสชาติของไทยอันน่าภาคภูมิ สารผู้บริหาร GI ข้าว GI หลากหลายสายพันธุ์ สะท้อนอัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ ่ น สินค้าใหม่ขึ ้ นทะเบียน GI ข้าวหอมใบเตยนครสวรรค์ ข้าว GI ไทย น้องใหม่ที ่ พึ ่ งได้รับการขึ ้ นทะเบียน เที ่ ยวตามรอยสินค้า GI ย้อนรอยประวัติศาสตร์ เมืองโบราณมรดกโลก จ.เพชรบูรณ์เจ้าของ กรมทรัพย์สินทางปัญญา นางสาวกนิษฐา กังสวนิช รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นางกิติยาพร สาธุเสน ผู้อ�านวยการกองสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ นางสาวญาดา เปสลาพันธ์ นักวิชาการพาณิชย์ช�านาญการ ส . ต . ท . หญิง แวววาว จันทรา นักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการ นายกันย์ติพัฒน์ เหมือนพุฒ เจ้าพนักงานการพาณิชย์ช�านาญงาน นางสาวนันท์นภัส ธิติวรทรัพย์ นักวิชาการพาณิชย์ นายบุญฤทธิ ์ เพชรแท้ นักวิชาการพาณิชย์ จัดท�าโดย บริษัท ไลฟ์สไตล์แอนด์ทราเวล มีเดีย จ�ากัด เลขที่ 20/3 ซอยประสานมิตร ถนนสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 พิมพ์ที่ บริษัท กรีนไลฟ์ พริ ้ นติ ้ ง เฮ้าส์ จ�ากัด 68 ซอยเทียนทะเล 20 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 หนังสือเล่มนี้ พิมพ์ด้วยกระดาษกรีนโอเชี่ยน ใช้หมึกพิมพ์ถั ่ วเหลือง และกระบวนการ ผลิต ที่รักษาสิ ่ งแวดล้อม ลดการปล่อย CO 2 เทียบเท่ากับการปิดไฟ 10,890 ดวง ใน 1 วัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.greenlifeprinting.com ฉบับที่7 เดือนเมษายน 2567 วารสาร สิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย GI EXECUTIVE’S TALK ข้าว GI หลากหลายสายพันธุ์ สะท้อน อัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ ่ น นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา “ข้าว” พืชเศรษฐกิจหลัก เอกลักษณ์แห่งความ อุดมสมบูรณ์ของประเทศไทย ข้าว เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ล�้าค่าของ ประเทศไทย หล่อเลี้ยงชีวิตคนไทยมาอย่างยาวนาน ทั้งในแง่ของอาหารหลัก สินค้าส่งออกส�าคัญ และ เป็นฐานรากส�าคัญของเศรษฐกิจไทย จากข้อมูล ปี 2566 ประเทศไทยครองอันดับ 3 ของโลก ในฐานะ ผู้ส่งออกข้าว รองจากอินเดียและเวียดนาม สร้าง รายได้มหาศาลให้กับประเทศกว่า 178,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ข้าวยังเป็นพืชเศรษฐกิจหลักที่ ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูกมากที่สุด มีจ�านวนครัวเรือน ที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมกว่า 4.3 ล้านครัวเรือน คิดเป็น 74.4% ของจ�านวนครัวเรือนภาค การเกษตรทั้งหมด ปัจจุบันการผลิตข้าวไทยมีการ พัฒนาอย่างก้าวหน้า ทั ้ งรูปแบบการปลูก การดูแล รักษา เก็บเกี่ยว และการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวที่มี ความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการ ของตลาด และสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เพิ่มโอกาสทางการค้า สร้างโอกาสทางการ ตลาด ด้วยสินค้า GI สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ (GI) เป็นทรัพย์สิน ทางปัญญาประเภทหนึ่ง ซึ่งผู้บริโภคในหลาย ประเทศทั้งในสหภาพยุโรป จีน ญี่ปุ่น ให้การ ยอมรับด้วยคุณภาพ คุณลักษณะพิเศษเฉพาะ และ ชื่อเสียงของสินค้านั้น ๆ ที่เป็นผลมาจากแหล่งผลิต ที่เฉพาะเจาะจงและภูมิปัญญาของคนในพื้นที่ เช่น “ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้” ซึ่งเป็นผลมาจาก สภาพภูมิประเทศและสภาพอากาศที่มีความแห้งแล้ง และความอุดมสมบูรณ์ในดินต�่า ส่งผลให้ข้าวเกิด ความเครียดและหลั่งสารความหอมออกมา ท�าให้ ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้มีความหอมมากกว่า ข้าวหอมมะลิในพื้นที่อื่น เป็นต้น ปัจจุบัน กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ขึ้นทะเบียนสิ ่ งบ่งชี้ “ข้าว” หนึ่งในวิถีชีวิตของคนไทยตั ้ งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ที่สะท้อนถึงความ อุดมสมบูรณ์ ความรุ่งเรืองของเศรษฐกิจในระดับประเทศอย่างไม่รู้จบ03 ฉบับที ่ 7 เดือนเมษายน 2567 (สารผู้บริหาร GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา ทางภูมิศาสตร์ไทย (GI) รวม 203 รายการ สร้าง มูลค่าการตลาดให้ประเทศกว่า 70,000 ล้านบาท ข้าว GI ไทย สะท้อนอัตลักษณ์ วัฒนธรรมและ ภูมิปัญญาท้องถิ ่ น ข้าว ไม่ได้เป็นเพียงอาหารหลักของคนไทย แต่ ยังเป็นวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่สั่งสมถ่ายทอดผ่านรุ่นสู่รุ่น ข้าว GI หรือ ข้าวสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เปรียบเสมือนตัวแทน อันทรงคุณค่าที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะถิ ่ น บ่งบอกถึงที่มา วิธีการปลูกผ่านภูมิปัญญาและ องค์ความรู้ดั้งเดิมของเกษตรกรไทย ปัจจุบันกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ขึ้นทะเบียน สิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ “ข้าว GI ไทย” ไปแล้ว 23 รายการ คิดเป็น 11.3 % ของสินค้าที่ ขึ้นทะเบียน GI ไทยทั ้ งหมด ซึ่งสร้างมูลค่า การตลาดกว่า 5,600 ล้านบาท นอกจากนี้ กรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงได้ผลักดันให้การ IndonesiaEuropean Union Malaysia ขึ้นทะเบียน “ข้าว GI ไทย” ในต่างประเทศ เช่น การจดทะเบียน GI “ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้” และ “ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง” ในสหภาพยุโรป อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นต้น ด้วยปัจจุบันผู้บริโภคมีความต้องการที่หลากหลาย ประกอบกับข้าว GI ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ซึ่งมีอัตลักษณ์เฉพาะตัว สามารถน�ามาท�าอาหาร ได้ทั้งอาหารคาวและหวาน เช่น “ข้าวเหนียว เขี ้ ยวงูเชียงราย” ที่นิยมน�ามาท�าเป็น ‘ข้าวเหนียวมูน’ ด้วยคุณสมบัติเหนียวนุ่ม เมล็ดเรียงตัวสวย เงา มันวาว ไม่เละ และไม่เหนียวติดมือ แม้จะมูนไว้นาน เมล็ดก็ยังเรียงสวยน่ารับประทาน “ข้าวเจ๊กเชย เสาไห้” จากจังหวัดสระบุรี ที่มีปริมาณอะมิโลสสูง จึงเหมาะน�ามาท�าเป็นเส้นขนมจีน เพราะจะท�าให้ เส้นเหนียวนุ่ม ไม่ขาดง่าย เป็นต้น นอกจากข้าว GI จะสัมพันธ์กับภูมิศาสตร์แล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่ยังคงขับเคลื่อน วิถีชีวิตชุมชน เช่น “ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี” ข้าวพันธุ์พื้นเมืองจากจังหวัดสกลนคร ที่ผ่าน กรรมวิธีเฉพาะตามภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวภูไท ในอดีต ที่เกิดจากข้าวไม่เพียงพอในการบริโภค ก่อนฤดูเก็บเกี่ยว จึงเก็บข้าวที่ใกล้สุกมาบ่มผ่านวิธี ดั้งเดิม จึงเกิดเป็นข้าวฮางหอมทองสกลทวาปีที่มี อัตลักษณ์เฉพาะตัว มีสีเหลืองทองอร่ามกลิ ่ นหอม ใบเตยอ่อน ๆ มีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นต้น ด้วยเสน่ห์ของข้าว GI ไทย ที่เป็นมากกว่าข้าว ธรรมดาทั่วไป หากแต่เป็นข้าวที่สะท้อนแหล่งที่มา มรดกภูมิปัญญา สะท้อนวัฒนธรรมของคน ในพื้นที่ จึงท�าให้อนาคตของข้าว GI ไทยยังสดใส สามารถเติบโตได้อย่างยั ่ งยืน ข้าวเหนียวเขี้ยวงูเชียงราย ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงGI Thailand Magazine 04 GI SOCIETY (กิจกรรมชาว GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธุ์ 2567 ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง น�าทีมลงพื้นที่จังหวัดยะลาสร้างมูลค่าเพิ ่ ม ให้สินค้า “ปลานิลสายน�้าไหลเบตง” และ “ปลาพลวงชมพูฮาลาบาลา” ปลาน�้าจืดที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ ่ น พร้อมดึงเชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชลิน ประธานอนุกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร ร่วมรังสรรค์เมนูเด็ดจากปลานิลสายน�้าไหลเบตง โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ขานรับนโยบายฯ เตรียมขึ้นทะเบียน GI 2 สินค้าตัวใหม่ของ จังหวัดยะลา คาดน�ารายได้สู่ชุมชนท้องถิ ่ นเติบโต อย่างยั่งยืน Thailand Rice Fest 2023 & Thailand Coffee Fest Year End 2023 กรมทรัพย์สินทางปัญญาลงพื ้ นที ่ เมืองแพร่ เตรียมดันแหล่งผลิตสุราพื ้ นบ้านขึ ้ นทะเบียน สิ ่ งบ่งชี ้ ทางภูมิศาสตร์ (GI) นายกฯ ลุยเบตง ชูเมนูเด็ดจากปลาท้องถิ ่ น เป็นซอฟต์พาวเวอร์อาหารใต้ กรมทรัพย์สิน ทางปัญญาขานรับนโยบายเตรียมขึ ้ นทะเบียน GI ไทย เมื่อวันที่ 15-16 มกราคม 2567 นางสาวกนิษฐา กังสวนิช รองอธิบดี กรมทรัพย์สินทางปัญญา น�าทีมลงพื้นที่แหล่งผลิตสุราพื้นบ้านของจังหวัดแพร่ เพื่อผลักดันการขึ้นทะเบียน “เหล้าแป้” เป็นสินค้าสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตัวใหม่ของจังหวัดแพร่ พร้อมสร้างมูลค่าเพิ ่ ม “ผ้าหม้อห้อมแพร่” GI เมืองแพร่เติบโต สร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน นอกจากนี้กรมฯ ยังได้หารือกับ หน่วยงานในจังหวัดมีแผนผลักดัน “ส้มโอขาวน�้าผึ้งเมืองลอง” และ “ส้มเขียวหวานวังชิ ้ น” ขึ้นทะเบียน GI อีกด้วย” เมื่อวันที่ 14 -17 ธันวาคม 2566 กรมทรัพย์สินทางปัญญาน�าสินค้า GI จัดกิจกรรมแสดงและจ�าหน่ายข้าว และกาแฟ GI ไทย กว่า 10 สินค้า ในงาน “Thailand Rice Fest 2023 & Thailand Coffee Fest Year End 2023” ที่ผ่านมา ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง มูลค่าเพิ ่ มให้กับสินค้า GI ขยายช่องทางการตลาดและเผยแพร่สินค้า GI ไทย ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง พร้อมสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานสินค้า GI ให้กับผู้บริโภค โดยแบ่งเป็น ข้าว GI 6 รายการ ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ ทุ่งกุลาร้องไห้, ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง, ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี, ข้าวก�่า ล้านนา, ข้าวไร่ดอกข่าพังงา และ ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์ และกาแฟ GI 4 รายการ ได้แก่ กาแฟดอยตุง, กาแฟดอยช้าง, กาแฟเทพเสด็จ และ กาแฟเมือง กระบี่ นอกจากนี้ภายในงานยังมีโซนกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ โซนชมข้าว โซนท�า กับข้าว รวมทั ้ งมีกิจกรรมยืดอกพกช้อน ชิมกาแฟ Basic Cupping ซึ่งเป็น กิจกรรมที่สอนให้มือใหม่หัดชิมกาแฟผ่านประสบการณ์ Cupping เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย ์น�าทีมลงพื้นที่จังหวัดน่านบุกแหล่งผลิต กาแฟคุณภาพระดับพรีเมี่ยมที่มีอัตลักษณ์เฉพาะตัว เป็นที่นิยมอย่างมาก จากคอกาแฟ พร้อมเดินหน้าผลักดันขึ้นทะเบียนสินค้า สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เผยเตรียมส่งเสริม และสนับสนุนยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้ เข้มแข็ง เน้นการสร้างมูลค่าเพิ ่ มให้กับสินค้า เกษตรอัตลักษณ์ท้องถิ ่ นด้วยสิ ่ งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ (GI) ให้คนรุ่นใหม่อยู่กับชุมชน อย่างยั ่ งยืน “ภูมิธรรม” ลุยแหล่งผลิต “กาแฟน่าน” ของดีน่านนคร พบผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ เตรียมดันขึ ้ นทะเบียน GI ยกระดับกาแฟ เมืองน่าน 05 ฉบับที ่ 7 เดือนเมษายน 2567 GI REGISTRATION (สินค้าใหม่ขึ ้ นทะเบียน GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย สินค้า GI ที ่ ได้รับการขึ ้ นทะเบียน ในปี2567 ข้าวพันธุ์พื้นเมืองที่มีกลิ่นหอมเหมือนใบเตย อันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดนครสวรรค์ ถูกกล่าวขานในเรื ่ องความอร่อยและมีเสน่ห์ ไม่เหมือนใคร หากได้ลองเพียงครั้งคงติดใจ จนยากจะลืม ด้วยคุณลักษณะของข้าวหอมใบเตย นครสวรรค์เป็นพันธุ์หอมใบเตย หรือพันธุ์ หอมใบเตย 62 ซึ่งเป็นข้าวเจ้าที่ไวต่อช่วงแสง ปลูกได้ในฤดูนาปี เมล็ดข้าวเรียวยาว เมื่อหุงสุก จะมีความนุ่ม และมีกลิ ่ นหอมตามธรรมชาติ คล้ายใบเตย ปลูกและแปรรูปในพื้นที่จังหวัด นครสวรรค์ จึงท�าให้ได้รับการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2567 นอกเหนือจากคุณลักษณะของ สายพันธุ์แล้ว สิ่งที่ท�าให้ ข้าวหอมใบเตย นครสวรรค์ มีเอกลักษณ์เฉพาะยังขึ้นอยู่กับ ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่ในภาคเหนือตอนล่างของประเทศ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่ม พื้นที่ ตอนกลางมีลักษณะเป็นที่ราบน�้าท่วมถึง ท�าให้เกิดสันริมน�้าตะกอนเนื้อละเอียดถูกพัดพา ไปในลุ่ม เกิดความอุดมสมบูรณ์ของดินปานกลาง รวมทั้งยังมีสายน�้าส�าคัญคือแม่น�้าปิงและ แม่น�้าน่านไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น�้าเจ้าพระยา มีสภาพอากาศ 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูร้อน ฤดูฝน และ ฤดูหนาว มีอุณภูมิเฉลี่ย 25-30 องศาเซลเซียส ปริมาณน�้าฝนตลอดทั ้ งปีประมาณ 1,000 – 1,200 มิลลิเมตร และมีความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ย ร้อยละ 71.39 ท�าให้จังหวัดนครสวรรค์เป็นพื้นที่ ที่เหมาะส�าหรับการปลูกข้าวหอมใบเตย ซึ่งส่งผล ให้ต้นข้าวมีล�าต้นใหญ่ แข็ง และไม่ล้มง่าย เมล็ดข้าว ครุน้อยบ้านสะอาง ศรีสะเกษ อะโวคาโดตาก เรียวยาว เมื่อหุงสุกจะมีความนุ่มและมีกลิ ่ นหอม ธรรมชาติคล้ายใบเตย จึงได้รับการขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติพันธ์ุพืชในปี พ.ศ. 2519 ในชื่อพันธ์ุข้าวหอมใบเตย การผลักดันให้ ข้าวหอมใบเตยนครสวรรค์ ขึ้นทะเบียนสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย (GI) ล�าดับที่ 198 จึงนับว่าเป็นการท�าให้ข้าวหอม ใบเตยนครสวรรค์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และ สร้างมูลค่าการตลาดกว่า 7,500,000 บาท อีกทั้งยังเพิ ่ มขีดความสามารถในการแข่งขัน ทางการค้าและเป็นการสร้างความเข้มแข็ง ให้แก่เกษตรกรพื้นที่ในจังหวัดนครสวรรค์ ได้มากขึ้นอีกด้วย ปลานิลกระชัง แม่นาโขงหนองคาย มังคุดทิพย์พังงาข้าวเบายอดม่วงตรัง ข้าวหอมใบเตยนครสวรรค์ ข้าว GI ไทย น้องใหม่ที ่ พึ ่ งได้รับการขึ ้ นทะเบียน ข้าวหอมใบเตย นครสวรรค์ HOM BAITOEY NAKHONSAWAN RICEGI Thailand Magazine 06 ZERO TO HERO วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง (Sangyod Maung Phatthalung Rice) พันธุ์ข้าวโบราณที่ปลูกมายาว นานกว่า 100 ปี เป็นข้าวเจ้าพันธุ์สังหยด ข้าวเจ้า พื้นเมืองพันธุ์เบา ข้าวนาสวน ที่มีความไวต่อช่วงแสง ข้าวเปลือกเป็นสีฟาง ข้าวกล้องมีสีแดงถึงแดงเข้ม ในเมล็ดเดียวกัน ข้าวสารมีสีปนแดงหรือสีชมพู รูปร่างเรียวเล็ก ปลูกในฤดูนาปีในเขตพื้นที่จังหวัด พัทลุง ซึ่งเป็นเมืองลุ่มแม่น�้าทะเลสาบสงขลา จึงมี ความอุดมสมบูณ์ด้วยการทับถมของตะกอนล�าน�้า ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่ท�านาปลูกข้าวเป็นหลัก ส�าหรับสายสุขภาพต่างก็รู้จัก ข้าวสังข์หยด เมืองพัทลุง เป็นอย่างดี ด้วยเพราะมีคุณค่าทาง โภชนาการสูง มีโปรตีน ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก แกมมาออไรซานอล กาบา แอนติออกซิแดนต์ ป้องกันมะเร็ง ช่วยชะลอความแก่ และมีกากใยสูง ด้วยคุณค่าที่มีอยู่มากมายนี้เอง คนในพื้นที่พัทลุง อย่างคุณบดินทร์ภัทร วิบูลย์พันธุ์ ทายาท คุณวิสุทธิ์ วิบูลย์พันธุ์ จึงเกิดความตั้งใจที่จะสืบสาน ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ที่มีมาแต่โบราณ สนับสนุน การท�างานวิถีแบบยั่งยืน พร้อมสร้างรายได้ที่มั่นคง ให้กับชุมชนในท้องถิ ่ น โดยร่วมมือกับคุณพ่อ เบนเข็มอาชีพจากผู้แทนจ�าหน่ายเครื่องจักรกล การเกษตรสู่การเป็นชาวนา ท�าโรงสี และเป็น เจ้าของแบรนด์ข้าวสังข์หยดออร์แกนิกที่ชื่อว่า วิบูลย์พันธ์ เฟซบุ๊ก :ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง อาหารเพื่อสุขภาพข้าวอินทรีย์ Organic โทร . : 064 597 8249 คุณบดินทร์ภัทรเล่าย้อนถึงเส้นทางอาชีพ ชาวนาที่ตนภาคภูมิว่า “เราเริ ่ มท�านาบนพื้นที่ 7 ไร่ ในปี 2560 เป็นการท�านาปลอดสารก่อน จากนั้น 3 ปีต่อมาถึงได้ขึ้นทะเบียนนาข้าวออร์แกนิกครับ โดยตั้งใจจะปลูกข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุงเลย เพราะ เป็นข้าวพื้นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน และมี คุณประโยชน์สูง ครอบครัวเราจึงอยากรักษาและ พยายามสื่อสารอัตลักษณ์ตรงนี้ไปให้ไกลกว่าเดิม” รวมกลุ่มรวมพลังรวมอ�านาจใน การต่อรอง “จากนั้นไม่นานนักคุณพ่อก็จัดตั้งวิสาหกิจ ชุมชนชาวนาพัทลุง ในนามของโรงสี เพื่อให้เรามี ความเป็นกลุ่มชาวนาที่ท�าข้าวสังข์หยดอินทรีย์ มีตัวตน มีความเข้มแข็ง และพยายามที่จะมี สวัสดิการหลาย ๆ ด้านเพื่อให้ชาวนาสามารถอยู่ได้ และอยู่ดี นอกจากนี้ยังมีชมรมอนุรักษ์ข้าวสังข์หยด ที่เพิ่งก่อตั้งเมื่อปีที่แล้ว โดยมีวัตถุประสงค์ว่าเรา อยากรวบรวมสมาชิกที่ท�าข้าวอินทรีย์ของจังหวัด พัทลุงให้ได้มากที่สุด เพื่อติดต่อประสานงานกับ หน่วยงานรัฐ และเพื่อการชี้แจงนโยบายของเรา ให้หลาย ๆ คนรับทราบได้ง่ายขึ้น ตอนนี้กลุ่มใหญ่ มี 4 กลุ่ม ถ้าเป็นรายบุคคลมี 60 คนครับ ซึ่งยัง ไม่ได้ครอบคลุมทั ้ งจังหวัด โดยเราจะเป็นคนรับซื้อ ประกันราคาข้าวให้ มีกองสวัสดิการให้ชาวนากู้ยืม ดอกเบี้ยถูกได้ เพื่อเอาไปใช้จ่ายระหว่างฤดูกาล ครับ หรือใครที่ท�าแบรนด์ตัวเอง อยากเอาเงิน ไปท�าการตลาดของเขาก็ได้ด้วย” ขึ้นทะเบียน GI อีกหนึ่งหนทางสู่ การอยู่รอดของข้าวสังข์หยด “ชาวนาข้าวสังข์หยดไม่ได้มีนาเป็นร้อยไร่ครับ เขามี 10 - 30 ไร่ พอปลูกข้าวสังข์หยดแล้วจะได้ ผลผลิตเฉลี่ยไร่ละ 300 กิโลกรัม ซึ่งถ้าเทียบกับข้าว ขาวที่ได้ไร่ละเกือบตัน มันยังห่างกันเยอะมาก ๆ แม้ ราคาข้าวสูงก็จริง แต่เมื่อเทียบกับปริมาณที่ได้น้อย ก็เลยท�าให้ชาวนาท�ารายได้จากข้าวสังข์หยดไม่ได้ดี เท่าที่ควร ผมมองว่าเมื่อเราท�าได้น้อย เราก็ต้องเพิ ่ ม มูลค่าตัวข้าวให้มากขึ้น ผลักดันให้มีความพิเศษมาก ขึ้น อย่างการขึ้นทะเบียน GI นี่ก็เป็นส่วนหนึ่ง ท�าให้ เรามีโอกาสทางการค้าขาย หรือการสื่อสารส�าหรับ เรามันง่ายขึ้น ท�าให้ข้าวเราพิเศษ อีกส่วนคือโอกาส ที่ GI ให้กับเราในการออกงานต่าง ๆ ผมมองว่า นอกจากเราจะได้สื่อสาร เราจะได้ขายหน้างานแล้ว ยังตอกย�้าด้วยว่าโอกาสทางการค้ามันมีเยอะ อยู่ที่ ว่าเราพร้อมจะไปหรือเปล่า เราสามารถปรับเปลี่ยน ให้ทันยุคสมัยได้ไหม” ข้าววิบูลย์พันธ์ข้าวดีที่จริงใจของ ชาวพัทลุง “ปัจจุบันนอกจากข้าวสารสังข์หยดเมืองพัทลุง แบรนด์วิบูลย์พันธ์แล้ว เราก็ยังท�าโจ๊กข้าวสังข์หยด ให้คนแก่ คนป่วย รับประทานได้ง่ายขึ้นในขณะที่ได้ สารอาหารเหมือนเดิม โดยใช้ชื่อแบรนด์ว่า คัทสรร โดยเราท�าแบรนด์ของตัวเองขึ้น เพราะเรามีความ พยายามจะเป็นแบรนด์ที่ซื่อสัตย์กับลูกค้าที่สุด เท่าที่เราจะท�าได้ ทั้งการปลูกข้าวให้ดีที่สุด รับรอง มาตรฐานให้ดีที่สุด กระบวนการตรวจสอบภายใน มากที่สุด มีความโปร่งใสในการท�างาน ค�าว่า วิบูลย์พันธ์เหมือนพันธสัญญาว่า คุณซื้อข้าวแบรนด์ นี้ไปคุณมั่นใจได้เลยว่าจะไม่มีการหลอกลวง แล้วเรา ก็ให้ค�ามั่นสัญญากับชาวนาว่าแบรนด์วิบูลย์พันธ์ ที่รับซื้อข้าวทุกเมล็ด เรามีการช่วยเหลือชาวนาทุกคน อย่างต่อเนื่อง และไม่เคยปล่อยใครไปไหน นอกจาก คุณจะกินข้าวแล้วได้สุขภาพ คุณก็ยังจะได้ ซัปพอร์ตกระดูกสันหลังของประเทศ ให้เขามีกิน มีอยู่ได้และสามารถใช้ชีวิต ในการท�าอาชีพนี้ต่อไป ได้ครับ” บดินทร์ภัทร วิบูลย์พันธุ์ สืบสานต�านานข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง สู่ข้าวคุณภาพเพื ่ อสุขภาพชาวไทย07 ฉบับที ่ 7 เดือนเมษายน 2567 (ความสำาเร็จผู้ประกอบการ GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย เฟซบุ๊ก :SRISANGDAO โทร.:098 866 9896 เว็บไซต์ .: srisangdao.com ปฏิเสธไม่ได้ว่า ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นสินค้าดาวเด่นของ GI ไทย ที่นอกจากจะเป็น สินค้าตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนสินค้า GI ในสหภาพ ยุโรป จีน มาเลเซีย และอินโดนีเซียแล้ว ยังสามารถ ส่งออกสินค้าในแบรนด์ “ศรีแสงดาว” ไปพร้อม ๆ กับการถ่ายทอดนวัตกรรมการท�านาหยอด ช่วย ลดต้นทุน ส่งเสริมรายได้ให้กับกลุ่มชาวนาให้ ยืนหยัดในอาชีพตนได้อย่างยั่งยืน เส้นทางการเติบโตอย่างมั ่ นคงของ ข้าวศรีแสงดาว คุณสินสมุทร ศรีแสนปาง ได้เล่าถึงความส�าเร็จ ของข้าวศรีแสงดาวตลอด 6 ปีนี้ว่า “ผมคิดว่าเรา ยังอยู่ในช่วงเริ ่ มต้นครับ ต้องรอดูอีกสักพัก ยังต้อง ท�างานหนักแต่ก็เป็นการท�างานหนักแบบมีลู่ทาง กว่าแต่ก่อน แต่ก่อนนั้นหนักแบบไม่รู้ว่าปลายทาง คือตรงไหน ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่า ความจริงใจ การสื่อสารกับผู้บริโภคจะต้องท�าอย่างไร เราจะ ช่วยชาวนาอย่างไร จะหาช่องทางการตลาดอย่างไร ก็เป็นช่วงที่รอเวลาให้ผู้บริโภคได้รู้จักเรา เป็นช่วงที่ เราสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ สร้างชื่อเสียงของชุมชน ตรงนี้ออกไป ถ้าเปรียบกับข้าว มันเป็นช่วงที่ข้าว ก�าลังแตกกอ มีการเตรียมดินที่ดี รดน�้า พรวนดิน ให้ดี แล้วก็รอให้ข้าวเติบโตต่อไป และค�าว่าข้าว GI ตรงนี้ไม่ใช่แค่การขายข้าว เพียงอย่างเดียว เรายังหมายถึงขายชุมชนที่อยู่ที่นั่น ขายอัตลักษณ์ชุมชน ค�าว่าอัตลักษณ์ชุมชนก็แบ่งเป็น สองเรื ่ องอีก นั ่ นก็คืออัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม และอัตลักษณ์ทางดินน�้าฟ้าอากาศ ซึ่งข้าวหอมมะลิ ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นข้าวหอมที่ไวต่อช่วงแสงปลูกได้ปีละ 1 ครั้ง เป็นข้าวที่ปลูกในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เคยเป็น ทะเลเก่า พื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ดินมีความเค็ม อาศัย น�้าฝนบางครั้งข้าวต้องต่อสู้ความแห้งแล้งของพื้นที่ จะหลั่งสารความหอม (2AP) อันเป็นอัตลักษณ์ ของสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(GI) เมื่อหุงสุกจะมีความนุ่ม และมีกลิ ่ นหอมตามธรรมชาติ ช่วยชูรสชาติอาหาร ให้อร่อยขึ้นเป็นความภูมิใจของชุมชนเราและ ข้าวไทยมากครับ ซึ่งเราจะท�าอย่างไรให้ผู้บริโภค ได้เห็นถึงคุณค่าของเรื่องราวตรงนี้ ถือเป็นความท้าทาย เป็นเรื ่ องที่เราต้องลงไปช่วยกันส่งเสริมครับ” กลุ่มศรีแสงดาวหมู่บ้านนาหยอด กลุ่มจัดตั ้ งเพื่อชาวนา “เรามีการจัดตั ้ ง กลุ่มศรีแสงดาวหมู่บ้านนาหยอด ขึ้นเพื่อส่งเสริมการท�านาหยอดในภาคเอกชนของ โรงสีศรีแสงดาว ด้วยความรู้สึกว่าเราคือโรงสี เราก็ได้เห็นภาพรวมของเกษตรกรว่าเขาล�าบาก และ การแข่งขันในตลาดโลกเราก็ได้เห็นว่า มันไม่ได้ มีแค่ข้าวไทยที่ดีที่เดียว บางที่เขาพัฒนาสายพันธุ์ ไปไกลกว่าเราแล้ว เราก็รู้สึกว่าในฐานะที่เป็นโรงสี เราจะท�าอะไรเพื่อพัฒนาวงการข้าวของประเทศไทย เลยลงไปส่งเสริมด้วยใจรัก สร้างกลุ่มขึ้นมาโดย ไม่มีสัญญาข้อผูกมัด เกษตรกรคนไหนที่อยาก ปลูกนาหยอดกับเรา เรายินดีเข้าไปช่วยส่งเสริม ให้ความรู้ ดูแลไปจนถึงเก็บเกี่ยว แล้วก็เป็นที่รับซื้อ ไปในตัว ปัจจุบันเรามีสมาชิก 160 คน กับในพื้นที่ 2 พันไร่ เราอยากพัฒนาไปให้ถึงหมื่นไร่ แต่ว่าก็ขึ้นอยู่กับการตลาด ถ้ามีเสียงตอบรับจาก ตลาดมากขึ้น กลุ่มเกษตรกรก็จะมีเพิ่มไปเรื ่ อย ๆ นอกจากนี้เราก็ก�าลังจะพัฒนาสู่มาตรฐานเกษตร อินทรีย์ ตรงนี้ต้องใช้เวลา ต้องใช้ก�าลังใจเพราะว่าการ ท�านาหยอดก็ยากส�าหรับเกษตรกรแล้ว การท�านา หยอดเกษตรอินทรีย์ต้องการเวลาในการเรียนรู้ และปรับตัวกันไปกับกลุ่ม” ข้าว GI ไทย ข้าวคุณภาพที่ได้รับ การยอมรับในต่างแดน “ข้าวศรีแสงดาว ตอนนี้มีการส่งไปขาย ที่ออสเตรีย ประเทศข้างเคียงอย่างสโลวีเนีย โปแลนด์และเยอรมัน ต่อมาก็ไปที่อิสราเอล และ ก�าลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับดูไบและซาอุดิอาระเบีย ครับ โดย 2 ปีที่ได้ส่งออกมา สามารถส่งไปแล้ว ประมาณ 30 ตู้คอนเทนเนอร์ครับ ถ้าเทียบกับ ผู้ส่งออกรายใหญ่ของเรายังน้อยมาก และเดิมเลย การส่งออกข้าวก็ยากอยู่แล้ว การส่งออกในแบรนด์ ของตัวเองยากยิ่งกว่า แต่เราก็อยากขายแบรนด์ ของเรา อยากชูค�าว่า GI ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ชูความภูมิใจของประเทศ ชูความภูมิใจของข้าวไทย การที่มันไปได้เท่านี้ส�าหรับผมมันเยี่ยมมากแล้ว สเต็ปต่อไปเราก็ค่อย ๆ สร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภค ได้รู้จักข้าว GI ข้าวศรีแสงดาวของประเทศไทย มากขึ้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน ส�าหรับในประเทศไทย เรามีขายในช่อง Shopee Lazada หน้าเพจเฟซบุ๊ก Line @ศรีแสงดาว แล้วก็ในเดอะมอลล์กรุ๊ป กูร์เมต์ ท๊อปส์และร้านอาหารปะการังเรือนน�้าบางแสนครับ แต่ถ้าเปรียบเทียบกันแล้วปริมาณการขาย ในประเทศอยู่ที่ 10% ส่วนอีก 90% คือการส่งออก ผมว่าที่เราขายต่างประเทศได้เยอะเพราะว่า GI ยุโรป คนที่นั่นรู้จัก GI ดี ให้คุณค่าและให้การตอบรับที่ดี ว่ามันไม่ใช่เพียงแค่การขายสินค้าเท่านั ้ น แต่มันเป็น เรื่องการดึงอัตลักษณ์ชุมชน รวมถึงการดูแล อัตลักษณ์ชุมชนให้คงอยู่ ยิ ่ งในตอนนี้ความยั่งยืน ก�าลังเป็นเทรนด์ของโลก การท�า GI บนความยั่งยืน (3P -Profit - People - Planet) พร้อมการใช้ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อหาความสมดุล ในทุกย่างก้าวที่เราเดินด้วยกัน ตั้งแต่ต้นน�้า กลางน�้า และปลายน�้า ผมว่าผู้ประกอบการที่มีความเข้าใจ ชูความภูมิใจ ชูอัตลักษณ์ของชุมชนตรงนี้ ในระยะยาวเขาจะเป็นที่ยอมรับมากขึ้นครับ” สินสมุทร ศร ี แสนปาง ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวเรือธงของ GI ไทยที ่ ไปไกลถึงต่างแดน GI Thailand Magazine 08 GI & CO (พันธมิตร GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย The Cloud กับบทบาทการผลักดันข้าวและกาแฟ GI ไทยสู่ความยั ่ งยืน จากสื่อสร้างสรรค์สู่ผู้จัดงานที่หมายผลักดัน คุณค่าของสินค้าไทยให้ยั่งยืน The Cloud ได้ร่วม กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา คัดสุดยอด ข้าวและ กาแฟ GI ไทย เข้าร่วมงาน Thailand Rice Fest 2023 และ Thailand Coffee Fest Year End 2023 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14–17 ธ.ค. 2566 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ ์ เพื่อเปิดโอกาส ให้ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างชาติได้มีโอกาส สัมผัส ลิ้มลอง และพูดคุยกับผู้ประกอบการ พร้อม เพิ ่ มโอกาสในการขาย ผ่านการเล่าเรื่องในรูปแบบ ใหม่ที่น่าสนใจ คุณช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งและ กรรมการผู้จัดการ The Cloud ได้เล่าถึงการ มาร่วมงานกันในครั ้ งนี้ว่า “จริง ๆ งาน Thailand Coffee Fest จัดมาประมาณ 6-7 ปีแล้วครับ พอมีโอกาสได้เข้าไปในกระทรวงพาณิชย์ พูดคุย กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งมีทั้งข้าวและกาแฟ GI เลยท�าให้ผมได้ความคิดว่า จากที่มีแค่กาแฟเป็น พระเอกในคาเฟ่ ก็ควรเพิ่มข้าวซึ่งเป็นนางเอกใน ร้านอาหารได้ และในเมื่อเราจะจัดงานข้าวและ กาแฟ ก็ควรมีบูทสินค้า GI อยู่ในงานด้วย เพราะ เป้าหมายของเราคือการพยายามผลักดันซอฟต์ พาวเวอร์ไทยให้คนต่างชาติรู้จักกาแฟไทยข้าวไทย ว่าอร่อยและมีคุณภาพ ภายในงานกาแฟมีผู้ร่วม ออกบูทประมาณ 200 บูท ข้าวประมาณ 100 บูท โดยเรามีหลักการให้คนตัวใหญ่ช่วย คนตัวเล็ก คนที่เป็นองค์กรใหญ่ ๆ มีก�าลังก็จะมี ค่าใช้จ่ายประมาณหนึ่ง ขณะเดียวกันจะมี เกษตรกรบางกลุ่มที่เราเชิญมาออกบูทโดย ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ต้องผ่านการคัดเลือกที่พิสูจน์ว่า เขาเป็นตัวจริงในการท�าเกษตรที่มีความยั่งยืน พร้อมทั้งมีบูทสินค้า GI จัดแสดง 10 สินค้า เป็น สินค้าในกลุ่มข้าว 6 รายการ ได้แก่ 1.ข้าวหอมมะลิ ทุ่งกุลาร้องไห้ 2.ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง 3.ข้าวฮางหอมทองสกลทวาปี 4.ข้าวก�่าล้านนา 5.ข้าวไร่ดอกข่าพังงา และ 6.ข้าวเหนียวเขาวง กาฬสินธุ์ สินค้าในกลุ่มกาแฟมี 4 รายการ ได้แก่ 1.กาแฟดอยตุง 2.กาแฟดอยช้าง 3.กาแฟเทพเสด็จ และ 4.กาแฟเมืองกระบี่ครับ เพื่อเพิ ่ มความน่าสนใจในงานยังมีกิมมิกสนุก ๆ อย่างเช่น โซนชิมข้าว เป็นกิจกรรมชิมข้าว แล้วมาพูดคุยกันว่ารู้สึกอย่างไร โดยแบ่งเป็น รอบข้าวในต�านาน ข้าวลดโลกร้อน ข้าว GI มีโซน กินข้าวที่เชิญร้านอาหารมาแล้วให้เขาลองเปลี่ยน ข้าวเป็นข้าวที่เราแนะน�า มีโซนท�ากับข้าว ที่เชิญ เชฟสายอินฟลูเอ็นเซอร์มาสอนท�ากับข้าว ส่วน ฝั่งกาแฟเราจัดงานมา 6-7 ปีแล้ว ก็ค่อนข้างเป็น งานใหญ่ จึงมีกิจกรรม ‘Thailand Es Yen Championship 2024’ เป็นการแข่งชงกาแฟ 'เอสเย็น’ สัญชาติไทย มีเวิร์กช็อปการดื่มกาแฟ เบื้องต้น และมีกิจกรรมแก้ชง คือถ้าชงกาแฟที่ บ้านแล้วไม่อร่อย เราจะช่วยปรับว่าชงอย่างไรถึง จะอร่อย อย่างนี้เป็นต้นครับ” คุณช้างน้อยเล่าเพิ่มเติมว่าเนื่องจากปีที่แล้ว เป็นการจัด Thailand Rice Fest ขึ้นเป็น ครั้งแรก จึงค่อนข้างกังวล แต่เมื่องานเสร็จสิ ้ น ผลลัพธ์กลับดีกว่าที่คิด “งานข้าวท�าให้ผมใจฟู ที่สุดในรอบปีที่ผ่านมา นั่นเพราะว่าเกษตรกร เขาได้เจอคนที่สนใจข้าวที่เขาปลูกจริง ๆ มีคน เข้ามาพูดคุย สอบถาม ท�าให้เขารู้สึกว่ายังมีคนเห็น ความส�าคัญของเขาอยู่นะ อย่างบูท GI ที่ผม ประทับใจมากคือข้าวศรีแสงดาว เขาบอกว่านี่เป็น งานแรกที่มีคนมาคุยกับเขา แล้วข้าวเขาก็ขายหมด ทุกวัน” พร้อมกันนี้คุณช้างน้อยยังกล่าวเชิญชวน ทุกคนไปร่วมงาน Thailand Rice Fest 2024 และ Thailand Coffee Fest Year End 2024 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 11-14 ธันวาคม 2567 นี้ว่า “ผมว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่พิเศษมาก ในมุมกาแฟ เรามีคาเฟ่คัลเจอร์และปลูกกาแฟได้ ฝรั่งสามารถนั่งเครื่องบินมาลงเชียงใหม่ ไปคาเฟ่ แล้วนั่งรถต่อไปไร่กาแฟแค่ 2 ชม. รวมไปถึงข้าว ที่คนทั่วโลกต่างรู้จัก ผมว่าประเทศไทยมีสายพันธุ์ ข้าวเยอะที่สุดประเทศหนึ่ง ผมจึงอยากให้ทุกคน รู้จักสินค้าในบ้านเรา แล้วก็ท�าให้เป็นเทรนด์ เกิดขึ้น สร้างมูลค่าให้เพิ ่ มขึ้น สุดท้ายซัพพลายเชน ก็ดีขึ้นครับ เพราะฉะนั้นผมว่าถ้าทุกคนมางานนี้ มันไม่ได้ประโยชน์แค่พ่อค้าแม่ค้าเท่านั้น แต่ยัง สร้างประโยชน์ ให้กับประเทศไทยได้ด้วยครับ” คุณช ้ างน้อย กุญชร ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ The Cloud09 ฉบับที ่ 7 เดือนเมษายน 2567 GI SHOP (ของดี GI ไทย) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย ข้าว เป็นอาหารหลักของคนไทย ในประเทศไทยจึงมีข้าวหลากหลายสายพันธุ์ ด้วยภูมิประเทศและวิถีชีวิต ที ่ แตกต่างกันในแต่ละพื ้ นที ่ จึงนิยมปลูกข้าว รวมทั ้ งนิยมรับประทานข้าวที ่ แตกต่างกันออกไป สำาหรับข้าว ที ่ ได้รับการขึ ้ นทะเบียน GI ปัจจุบันมีถึง 23 สินค้า แต่ละสายพันธุ์ก็ล้วนมีอัตลักษณ์โดดเด่น และรสชาติ อร่อยในแบบฉบับของตัวเอง เจ้าของสินค้า : สหกรณ์การเกษตรทุ่งวัดสิงห์ 79 ม.9 ต.มะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท 17120 โทร . : 056 461 620, 063 116 8778 เจ้าของสินค้า : สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านบางทอง จำากัด 14/5 หมู่ 2 ต . บางทอง อ . ท้ายเมือง จ . พังงา 82120 โทร. : 087 279 8828, 083 242 6318 เจ้าของสินค้า : วิสาหกิจชุมชนเกษตรทฤษฎีใหม่ฮักแพง-แบ่งปัน อ. เขาวง 191 หมู่ 9 ต . คุ้มเก่า อ . เขาวง จ . กาฬสินธุ์ โทร. : 089 843 2241 ข้าวหอมมะลิพะเยา คือข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และ ข้าวขาว ที่แปรรูปมาจากข้าวหอมมะลิ พันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และ กข15 เจ้าของสินค้า : ห้างหุ้นส่วนจำากัด ข้าวสร้างสุข 427 หมู่ 11 ต.บ้านตำ้า อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา 56000 โทร . : 081 740 7822 ข้าวหอมขาวเจ๊กชัยนาท คือข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และ ข้าวขาว ที่แปรรูปมาจากข้าวเปลือก พันธุ์ขาวเจ๊กชัยนาท ปลูกในฤดู นาปี เมล็ดค่อนข้างยาวใหญ่ และ อ้วน เมื่อหุงสุกจะอ่อนนุ่มก�าลังดี ข้าวไร่ดอกข่าพังงา คือข้าวไร่พันธุ์พื้นเมือง เป็นข้าว ไวต่อช่วงแสง ข้าวซ้อมมือมีสีแดง แกมขาว ข้าวกล้องมีสีแดง ข้าวสาร ข้าวเหนียววงกาฬสินธุ์ คือข้าวพันธุ์กอเดียว ซึ่งเป็นข้าว พันธุ์พื้นเมือง และข้าวพันธุ์ กข 6 เป็น ข้าวเหนียวที่ไวต่อแสง เมื่อนึ่ง ข้าวเหนียวสุกจะหอมและนุ่ม ไม่แฉะ ติดมือ เมื่อเก็บไว้ในภาชนะปิด เมล็ดข้าวสารมีรูปร่างเรียว ยาว เมล็ดใส ท้องไข่น้อย เมื่อหุงแล้วนุ่ม มีกลิ ่ นหอมคล้ายใบเตย แม้ทิ ้ งไว้นาน ก็ยังคงสภาพและยังมีกลิ ่ นหอม ปลูก ในพื้นที่ลุ่ม ล้อมรอบด้วยเทือกเขา หรือแอ่งที่ทับถมด้วยตะกอนแม่น�้า ในพื้นที่ 9 อ�าเภอของจังหวัดพะเยา มีกลิ่นหอม ใช้ปริมาณข้าวในการ หุงน้อย เพราะเมื่อข้าวหุงสุกแล้วจะ ขึ้นหม้อ รับประทานแล้วจะรู้สึก อยู่ท้อง ปลูกและผลิตในพื้นที่ของ จังหวัดชัยนาท หลายชั่วโมงจนข้าวเย็นก็ยังคงความ อ่อนนุ่มไว้ได้ ปลูกได้เฉพาะฤดูนาปี ในเขตพื้นที่อ�าเภอเขาวง อ�าเภอ กุฉินารายณ์ (เฉพาะต�าบลนาโก และ ต�าบลหนองห้าง) และกิ ่ งอ�าเภอนาคู (เฉพาะต�าบลนาคู และต�าบลบ่อแก้ว) จังหวัดกาฬสินธุ์ ข้าว GI ไทย อัตลักษณ์ความอร่อยทั ่ วทุกภูมิภาค เมล็ดเรียวยาวสีน�้าตาลแดงอมม่วง เมื่อหุงสุกแล้วจะมีกลิ่นหอมคล้าย ใบเตย หุงขึ้นหม้อ ไม่แข็ง รสชาติ อร่อย ปลูกในเขตพื้นที่อ�าเภอตะกั่วทุ่ง อ�าเภอท้ายเหมือง และอ�าเภอเมือง พังงา ของจังหวัดพังงาNext >