สิ ่ งบ่งชี ้ ทางภูมิศาสตร์ไทย วารสาร ฉบับที ่ 5 เดือนเมษายน 2566 A FLAVOURFUL SOFT POWER อาหารไทยสู่บทบาทการก้าวเป็น SOFT POWER สารผู้บริหาร GI เปิด ‘ สำ�รับ GI’ ดันจุดแข็ง เพิ ่ มจุดข�ย ภ�รกิจส่งต่ออัตลักษณ์พื ้ นถิ ่ นไทยผ่�นเมนู อ�ห�รระดับ Fine Dining ด้วยเชฟมิชลิน สินค้าใหม่ขึ ้ นทะเบียน GI ไข่ครอบสงขล� สูตรลับคว�มอร่อยของช�วสงขล� เที ่ ยวตามรอยสินค้า GI เที ่ ยวเล่นสมุทรปร�ก�ร ชิมเมนูเด็ด ข้�วเหนียวมะม่วง ที ่ โด่งดังเป็นกระแสโลกเจ้าของ กรมทรัพย์สินท�งปัญญ� น�งส�วกนิษฐ� กังสวนิช รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา น�งกิติย�พร ส�ธุเสน ผู้อ�านวยการกองสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ น�งส�วมนชนก ธนสันติ นักวิชาการพาณิชย์ช�านาญการ น�งส�วญ�ด� เปสล�พันธ์ นักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการ ส.ต.ท.หญิง แววว�ว จันทร� นักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการ น�งส�วมณีรัตน์ จุ้ยเรือง เจ้าพนักงานการพาณิชย์ช�านาญงาน น�งส�วนันท์นภัส ธิติวรทรัพย์ นักวิชาการพาณิชย์ น�งส�วณัฐมน แกะพลอย นักวิชาการพาณิชย์ น�งส�วสุวนีย์ วิชัย เจ้าหน้าที่กองสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ จัดท�าโดย บริษัท ไลฟ์สไตล์แอนด์ทร�เวล มีเดีย จำ�กัด เลขที่ 20/3 ซอยประสานมิตร ถนนสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 พิมพ์ที่ บริษัท กรีนไลฟ์ พริ ้ นติ ้ ง เฮ้�ส์ จำ�กัด 68 ซอยเทียนทะเล 20 ถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150 หนังสือเล่มนี้ พิมพ์ด้วยกระด�ษกรีนโอเชี่ยน ใช้หมึกพิมพ์ถั ่ วเหลือง และกระบวนก�ร ผลิต ที่รักษ�สิ ่ งแวดล้อม ลดก�รปล่อย CO 2 เทียบเท่�กับก�รปิดไฟ 10,890 ดวง ใน 1 วัน ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.greenlifeprinting.com ฉบับที่ 5 เดือนเมษายน 2566 วารสาร สิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย GI EXECUTIVE’S TALK เปิด ‘ ส�ารับ GI’ ดันจุดแข็ง เพิ ่ มจุดขาย ภารกิจส่งต่ออัตลักษณ์พื ้ นถิ ่ นไทย ผ่านเมนูอาหารระดับ Fine Dining ด้วยเชฟมิชลิน จากการจัดอันดับ “Global Soft Power Index 2022” โดย Brand Finance สามารถ สะท้อนความส�าเร็จอีกขั้นของไทยในการผลักดัน Soft Power ของประเทศ ซึ่งไทยมีคะแนนสูงขึ้น และอยู่อันดับที่ 35 จาก 120 ประเทศทั่วโลก อันดับที่ 2 ของอาเซียน และอันดับที่ 6 ของเอเชีย แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งในต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ สามารถน�ามาต่อยอดเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของ ประเทศได้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที่มีศักยภาพ 5 F คือ 1) อาหารไทย (Food) 2) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) 3) ผ้าไทยและ การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion) 4) มวยไทย (Fighting) 5) เทศกาลประเพณีไทย (Festival) ถือเป็น Soft Power ที่เข้มแข็งและทรงพลัง น�ารายได้มาสู่ประเทศและชุมชนอย่างยั่งยืน กรมทรัพย์สินทางปัญญา ในฐานะหน่วยงานหลัก ในการยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ และเพิ ่ ม ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา ตระหนักและเล็งเห็นถึง ความส�าคัญในการผลักดัน Soft Power ของประเทศ โดย “สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” (Geographical Indication) หรือที่หลายคน เรียกกันสั้นๆ ว่า GI ได้เข้ามามีบทบาทส�าคัญ ในการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศ เนื่องจากสินค้า GI ไทย ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว 185 รายการ เป็นสินค้าในกลุ่มอาหารและ เครื่องดื่มถึง 150 รายการ คิดเป็น 82% ซึ่ง ล้วนแล้วแต่มีความเชื่อมโยงกับแหล่งภูมิศาสตร์ นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินท�งปัญญ� มีเรื่องราว (Story) หรือภูมิปัญญาท้องถิ ่ นมาอย่าง ยาวนาน จนท�าให้เกิดผลผลิตที่มีอัตลักษณ์พิเศษ และยังเป็นสิทธิร่วมกันของคนในชุมชน ประกอบ กับกระแสของอาหารไทยที่โด่งดังไปทั่วโลก จึงเป็น โอกาสให้สินค้า GI สามารถเติบโตในวงการอาหาร ได้อย่างไม่ยากนัก ล่าสุด กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เดินหน้า ภารกิจในการน�าอัตลักษณ์สินค้า GI ไทยมา ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์ เพื่อสร้างจุดขาย ดึงดูดผู้คนในแวดวงอาหาร ตลอดจนนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ผ่านกิจกรรม “สัมผัส ส�ารับ GI สุดประณีตด้วยเชฟมิชลิน” โดยเชิญ เชฟชาลี กาเดอร์ เจ้าของรางวัลบิบ กูร์มองด์ 03 ฉบับที ่ 5 เดือนเมษายน 2566 (สารผู้บริหาร GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย จากการจัดอันดับ “Global Soft Power Index 2022” โดย Brand Finance ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 35 จาก 120 ประเทศทั ่ วโลก และอันดับที่ 6 ของเอเชีย แสดงให้เห็นถึงจุดแข็ง ในต้นทุนทางวัฒนธรรม ที่สามารถน�ามาต่อยอด เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ ของประเทศได้ ส�ารับ GI สู่ผู้ชมในโลกออนไลน์รวมกว่า 10 ล้านคน สร้างการรับรู้สินค้า GI ในวงกว้าง อีกทั้งยัง เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ประกอบอาชีพ ด้านอาหาร ในการน�าสินค้า GI มาเป็นวัตถุดิบใน เมนูต่างๆ สร้างโอกาสทางการค้าให้กับผู้ประกอบการ และเกษตรกรผู้ผลิตสินค้า GI ต่อไป นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความส�าเร็จในการ สื่อสารอัตลักษณ์พื้นถิ่นสู่สายตาชาวไทยและ ชาวต่างชาติ ซึ่งภารกิจด้านการส่งเสริมสินค้า GI ไม่ใช่แค่เพียงสินค้าในกลุ่มอาหารเท่านั้น แต่กรมทรัพย์สินทางปัญญายังร่วมส่งเสริมสินค้า GI ในกลุ่มสินค้าหัตถกรรมและอุตสาหกรรม อย่างต่อเนื่องและครบวงจร ทั้งการขึ้นทะเบียน ให้ความคุ้มครอง การควบคุมคุณภาพเพื่อสร้าง ความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และการส่งเสริมการ ตลาดในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยกรมฯ เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่ม ให้กับสินค้า GI จะเป็นอีกกลไกส�าคัญในการสร้าง ความแข็งแกร่งให้กับ Soft Power ไทยไปสู่ เวทีโลก ช่วยเพิ ่ มโอกาสทางเศรษฐกิจ และน�า รายได้กลับมาสู่ชุมชนท้องถิ่นและประเทศได้อย่าง ยั่งยืน จากมิชลินไกด์ประเทศไทย มาร่วมรังสรรค์เมนู อาหาร Fine Dining ณ ร้านวรรณยุค เพื่อเพิ ่ ม มูลค่าสินค้าท้องถิ่นและยกระดับสินค้า GI ไทย ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยใช้วัตถุดิบ GI จาก ทั่วประเทศ 23 รายการ ได้แก่ เนื้อโคขุนโพนยางค�า ปลากะพงสามน�้าทะเลสาบสงขลา ปลากุเลาเค็ม ตากใบ ปลาสลิดบางบ่อ ปลาดุกร้าทะเลน้อยพัทลุง ไชโป้วโพธาราม ไข่เค็มไชยา ข้าวเหนียวเขี้ยวงู เชียงราย ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง ข้าวก�่าล้านนา ข้าวหอมมะลิอุบลราชธานี พริกบางช้าง มะพร้าว เกาะพะงัน มะพร้าวน�้าหอมราชบุรี ชมพู่เพชร มะยงชิดนครนายก มะขามเทศเพชรโนนไทย มังคุดเขาคีรีวง ร่วมชูรสชาติด้วยกระเทียม ศรีสะเกษ หอมแดงศรีสะเกษ เกลือภูเขาบ่อเกลือ น่าน น�้าตาลโตนดเมืองเพชร และพริกไทยจันท์ น�ามาปรุงอาหารทั้งคาวและหวานในแบบฉบับ ที่ไม่ซ�้าใคร เริ ่ มด้วยเมนูทานเล่น ได้แก่ ม้าฮ่อมะยงชิด หมูย่างมะขามเทศ ขนมเบื้องญวน น�้าพริกลงเรือ Daily Relish เมนูจานหลัก ได้แก่ ต้มข่าไก่ น�้าพริกผัด กุ้งแพทอด กากหมู เสิร์ฟในรูปแบบ โอมากาเสะรวมกันมาในจานเดียว แกงส้มมะละกอ เนื้อเค็มต้มกะทิ ปลาย่าง แกงอ่อม ป่นปลา ข้าวจี่ แกงคั ่ วหอยแครง กุ้งผัดพริกเกลือ ย�าปลาดุกร้ามะพร้าวอ่อน และมีไฮไลต์ปิดท้ายด้วย ข้าวแกงวรรณยุค ประกอบด้วย ย�าเนื้อมังคุด เขาคีรีวง แกงป่ากุ้งสับ หลนเต้าเจี้ยวหมูสับ ไข่ดาววรรณยุค และขนมเปียกปูน ในโอกาสนี้ กรมฯ ได้เชิญนักชิมและกูรูด้าน อาหารชื่อดังของเมืองไทย อาทิ เชฟชุมพล แจ้งไพร ทูตอาหารเพื่อความยั่งยืน โดย UN ผู้รังสรรค์เมนู อาหารในการประชุมเอเปคที่ประเทศไทยเป็น เจ้าภาพ เชฟเนตร เนตรอ�าไพ สาระโกเศศ กรรมการรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย มาดามตวง อุบลรัตน์ ช่อธีระพฤกษ์ ผู้เชี่ยวชาญ ด้านอาหารระดับประเทศ คุณช้างน้อย กุญชร ณ อยุธยา ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ The cloud คุณพีรพัฒน์ ตุลยาเดชานนท์ นักรีวิวอาหารชื่อดัง เจ้าของเพจกินกับพีท คุณชลทิพย์ ระยามาศ เจ้าของรางวัล Top Food Influencer จากเวที Influencer Asia 2015 เป็นต้น มาร่วมชิมเมนู ดังกล่าว ด้วยเสน่ห์ในคุณภาพของวัตถุดิบ GI เอกลักษณ์เฉพาะตัวและภูมิปัญญาท้องถิ ่ น ประกอบกับความประณีตพิถีพิถันในการปรุง อาหารของเชฟระดับมิชลิน ช่วยสร้างมิติใหม่และ ความตื่นตาตื่นใจให้แก่เหล่านักชิมและกูรูทุกท่าน โดยแต่ละท่านได้ถ่ายทอดประสบการณ์การลิ้มรสGI Thailand Magazine 04 GI SOCIETY (กิจกรรมชาว GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย เกษตรกรเมืองคอนฯ ชื ่ นมื ่ น ! ปิดด ี ล “ ส้มโอ ทับทิมสยามปากพนัง” ล็อตใหญ่ พร้อมมอบ บรรจุภัณฑ์ “มังคุดเข�คีรีวง” พัฒน�สู่สินค้� ระดับพรีเมียม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พาณิชย์ พร้อมผู้บริหารกรมทรัพย์สินทางปัญญา และผู้บริหารท็อปส์ ธุรกิจ กลุ่มฟู้ด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ น�าคณะผู้บริหาร กรมทรัพย์สินทางปัญญา ลงพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดกระบี่ ระหว่าง 22-24 ธ.ค. 2565 ที่ผ่านมา เพื่อมอบหนังสือรับรอง GI ให้กับ “ขมิ ้ นชันสุราษฎร์ธานี” และ “ปลาเม็งสุราษฎร์ธานี” น้องใหม่ GI ที่เพิ ่ ง กรมทรัพย์สินฯ ลงพื ้ นที ่ มอบตร� GI แก่ “ขมิ ้ นชันสุราษฎร์ธานี” และ “ปลาเม็งสุราษฎร์ธานี” พร้อมดัน “ทุเรียนทะเลหอยของดีจังหวัดกระบี ่ ขึ ้ นทะเบียน GI ต่อไป” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงพาณิชย์ ชวนนักชิม-กูรูอาหารชื่อดังพิสูจน์คุณภาพความอร่อย ของอาหารสุดประณีตจากสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ในงาน “สัมผัสส�ารับ GI สุดประณีตด้วยเชฟมิชลิน” ร่วมด้วยนายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดี กรมทรัพย์สินทางปัญญา นางสาวกนิษฐา กังสวนิช รองอธิบดีกรม ทรัพย์สินทางปัญญา และนางกิติยาพร สาธุเสน ผู้อ�านวยการกองสิ่งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ ณ ร้านอาหารวรรณยุค จากฝีมือของเชฟชาลี กาเดอร์ เจ้าของรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ ประเทศไทย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยร้านวรรณยุค ร้านอาหารไทยระดับ Fine Dining ได้ น�าวัตถุดิบ GI ถึง 23 รายการมารังสรรค์ สัมผัสส�ารับ GI สุดประณีตด้วยเชฟมิชลิน 11 พ.ย. 2565 เพื่อเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ในปี 2566 สินค้า GI “ส้มโอทับทิมสยาม ปากพนัง” ณ วิสาหกิจชุมชนเทศบาลต�าบล เกาะทวด จ�านวนกว่า 100 ตัน เตรียม ส่งจ�าหน่าย ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ และ ตลาดจริงใจ Farmers’ Market ทั ่ วประเทศ ด้วยรสชาติหวานนุ่ม เนื้อสีชมพูเข้ม คล้ายสีทับทิมที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างรายได้แก่เกษตรกรในพื้นที่อ�าเภอ ปากพนังกว่า 700 ครัวเรือนและสร้างมูลค่าการตลาดกว่า 238 ล้านบาท/ปี พร้อมกันนี้ยังได้ส่งเสริมการตลาดสินค้า GI “มังคุดเขาคีรีวง” มอบกล่อง บรรจุภัณฑ์ให้แก่เกษตรกรผู้ผลิตมังคุดคีรีวงเพื่อยกระดับภาพลักษณ์สินค้า GI ในระดับพรีเมียม ในการขายออฟไลน์และ ออนไลน์โดยมีกล่องตราสัญลักษณ์ GI ยืนยันคุณภาพและมาตรฐานสินค้าจาก แหล่งพื้นที่เพาะปลูกโดยตรง โดยที่ผ่านมา มังคุดเขาคีรีวงสร้างรายได้ว่า 123 ล้านบาท/ปี เมนูอาหารสุดพิเศษที่ผสมผสานความเป็นไทยและสากลได้อย่างลงตัว เช่น น�้าพริกลงเรือจากไข่เค็มไชยา หมูย่างมะขามเทศเพชรโนนไทย ขนมเบื้องญวนไชโป้วโพธาราม ปลากะพงสามน�้าทะเลสาบสงขลาย่าง ย�าปลาดุกร้าทะเลน้อยพัทลุงใส่มะพร้าวอ่อน เนื้อโคขุนโพนยางค�าเค็ม ย�าเนื้อมังคุดเขาคีรีวง เป็นต้น ชูรสด้วยกระเทียมศรีสะเกษ หอมแดง ศรีสะเกษ และพริกไทยจันท์ ขึ้นทะเบียนล่าสุด และเตรียมช่วยขยาย ช่องทางการตลาดสินค้าทั้ง 2 รายการ น�าไปจ�าหน่ายผ่านห้างโมเดิร์นเทรด ชั้นน�า เพื่อช่วยให้เกษตรกรและผู้ผลิต มีช่องทางการจ�าหน่าย และมีรายได้ที่ เพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแหล่งผลิต “ทุเรียนทะเลหอย” ของดี จังหวัดกระบี่ ก่อนดันขึ้นทะเบียนสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) เป็นล�าดับต่อไป ซึ่งการส่งเสริมให้มีการขึ้นทะเบียน GI อย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้างความเชื่อมั่น ให้แก่ผู้บริโภค น�ามาสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและน�ารายได้กลับเข้าสู่ ชุมชนอย่างยั่งยืน 05 ฉบับที ่ 5 เดือนเมษายน 2566 GI REGISTRATION (สินค้าใหม่ขึ ้ นทะเบียน GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย สินค้า GI ที ่ ได้รับการขึ ้ นทะเบียน ในปี 2566 จากกรรมวิธีพิเศษตามภูมิปัญญาท้องถิ่น ถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น สู่สินค้า ไข่ครอบสงขลา เมนูอาหารปักษ์ใต้แสนอร่อย ที่หากได้ลอง สักครั้งจะต้องติดใจ ไข่ครอบสงขลา (Songkhla Steamed Egg Yolks หรือ Khai Khrop Songkhla) อาหารพื้นถิ ่ นของชาวคาบสมุทรสทิงพระ ที่เกิด จากการน�าไข่แดงจากไข่เป็ด 2 ใบ ใส่ลงในเปลือกไข่ 1 ใบที่ตัดแต่งขอบแล้ว น�าไปนึ่งจนมีสีแดงอมส้ม ผิวมันวาว เนื้อสัมผัสมี 3 ระดับ คือ เนื้อลาวา เนื้อยางมะตูม เนื้อดั ้ งเดิม มีรสชาติมันและเค็ม เล็กน้อย ไม่มีกลิ ่ นคาว ซึ่งเป็นวิธีการถนอมอาหาร จากภูมิปัญญาของคนในพื้นที่ที่สืบทอดกันมานาน ผลิตและแปรรูปในเขตพื้นที่ 4 อ�าเภอ ได้แก่ อ�าเภอสิงหนคร อ�าเภอสทิงพระ อ�าเภอ กระแสสินธุ์ และอ�าเภอระโนด จังหวัดสงขลา เท่านั้น โดยที่มาของ “ไข่ครอบ” นี้เกิดจากภูมิปัญญา ของคนท้องถิ ่ นในอดีต ที่ส่วนใหญ่ประกอบ อาชีพประมง และเลี้ยงเป็ดเป็นอาชีพเสริม จึงได้ คิดค้นวิธีถนอมอาหารด้วยการน�าไข่แดง มาบรรจุในเปลือกไข่ที่ตัดแต่งขอบ ผ่าน กระบวนการถนอมอาหารด้วยน�้าเกลือ น�า เปลือกไข่มาปิดครอบเพื่อกันแมลงและ สิ่งสกปรก จากนั้นท�าให้สุกด้วยการตากแดด ซึ่ง ปัจจุบันได้มีการพัฒนากระบวนการผลิต โดยใช้ วิธีการนึ่งแทนการตากแดด ท�าให้สามารถ ควบคุมได้ทั้งปริมาณ และคุณภาพ ไข่ครอบสงขลานี้ท�าจากไข่เป็ด จากเป็ดที่เลี้ยง ในเขตพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ พื้นที่อ�าเภอสิงหนคร อ�าเภอสทิงพระ อ�าเภอกระแสสินธุ์ และอ�าเภอ ระโนด ของจังหวัดสงขลา ที่ได้รับมาตรฐานการ เลี้ยงเป็ดไข่จากกรมปศุสัตว์ เลี้ยงโดยให้อาหารหลัก เป็นอาหารส�าเร็จรูป และอาหารเสริม เช่น หอย หัวกุ้ง ลูกปลาสด (ปลาเป็ด) ลูกปู เปลือกปู หรือสาหร่าย ทะเลที่ได้จากคาบสมุทรสทิงพระ พื้นที่ลุ่มใน ทะเลสาบสงขลา ซึ่งมีความโดดเด่นทางภูมิศาสตร์ เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบต�่า มีทะเลขนาบทั้ง 2 ด้าน คือด้านทิศตะวันออกเป็นอ่าวไทย และด้านทิศ ตะวันตกเป็นทะเลสาบน�้าจืด มีความอุดมสมบูรณ์ ไปด้วยทรัพยากรสัตว์น�้า และมีความหลากหลาย ทางชีวภาพ เป็นระบบนิเวศน์แบบผสมผสาน (ทะเลสาบสามน�้าที่มีทั้งน�้าจืด น�้าเค็มและน�้ากร่อย) ท�าให้มีสัตว์น�้าชุกชุม ซึ่งเป็นแหล่งอาหารเสริมชั ้ นดี ในการเลี้ยงเป็ดไข่ ไข่เป็ดที่ได้จึงมีขนาดใหญ่ เปลือกแข็ง เหนียว ไม่เปราะแตกง่าย น�้าหนักอยู่ใน จำ�ปีหนองแขม กล้วยหอมทอง หนองบัวแดง เกณฑ์ดี ไข่แดงมีขนาดใหญ่ มีสีแดงสด ไม่มีกลิ่นคาว รสชาติมีความมันเป็นเอกลักษณ์ เมื่อน�ามาแปรรูปจึงได้ไข่ครอบสงขลาที่มี เอกลักษณ์เฉพาะ ปัจจุบันไข่ครอบสงขลา ได้รับความนิยมสูง สามารถช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทาน อาหารร่วมกับอาหารพื้นถิ่นในภาคใต้ซึ่งมีรสจัด ได้ดี จึงเป็นอาหารประจ�าถิ ่ นที่รู้จักกันอย่าง แพร่หลายและมีการผลิตเฉพาะที่นี่เท่านั้น ไข่ครอบสงขลา จึงได้รับการขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ล�าดับที่ 198 ในเดือน มีนาคม 2566 เป็นหนึ่งในสินค้า GI ที่ ไม่ควรพลาดอีกด้วย ขนุนหนองเหียง ชลบุรี ทุเรียนทะเลหอย ข้�วเหนียวแดง เมืองเลย ข้�วเหนียวซิวเกลี ้ ยง เมืองเลย Songkhla Steamed Egg Yolks ไข่ครอบสงขลา สูตรลับความอร่อยของชาวสงขลาGI Thailand Magazine 06 ZERO TO HERO วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย ส�าหรับคนรักในการรับประทานเนื้อ ชื่อของ เนื้อโคขุนโพนยางค�า อาจจะเป็นชื่อที่แสนคุ้นเคย ด้วยเพราะเป็นชื่อของเนื้อคุณภาพเยี่ยมที่ได้รับ การยอมรับจากหลากหลายสถาบัน อีกทั้งยังได้รับ คัดเลือกให้น�าไปปรุงเป็นเมนูอาหารในงานเลี้ยง ส�าคัญ ส�าหรับต้อนรับผู้น�าเขตเศรษฐกิจเอเปค 2022 เนื้อโคขุนโพนยางค�า (Pon-Yang-Khram Beef) หมายถึง เนื้อโคขุนคุณภาพสูง มีลักษณะเป็นเนื้อ สีแดงสดใส มีไขมันแทรกเนื้อ เนื้อนุ่ม ไม่มีกลิ ่ นสาบ และมีรสชาติดี มีระดับไขมันแทรกที่ 3.5 ขึ้นไปตาม มาตรฐานเนื้อโค ผลิตจากโคเนื้อลูกผสมระหว่าง โคสายพันธุ์ยุโรปกับสายพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งผ่าน กระบวนการเลี้ยง การแปรสภาพและตัดแต่งอย่าง ถูกสุขลักษณะตามมาตรฐานสากล และตาม ข้อก�าหนดของสหกรณ์ฯ โพนยางค�าที่ผลิตใน ขอบเขตพื้นที่จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม ใน 8 อ�าเภอ ได้แก่ นาแก วังยาง ปลาปาก เรณูนคร ธาตุพนม นาหว้า โพนสวรรค์ และเมืองนครพนม จังหวัดมุกดาหารใน 4 อ�าเภอ ได้แก่ เมืองมุกดาหาร ดงหลวง ค�าชะอี และหนองสูง จังหวัดบึงกาฬ 1 อ�าเภอ ได้แก่ เซกา สหกรณ์ก�รเลี้ยงปศุสัตว์ กรป. กล�ง สหกรณ์แห่งก�รสร้�งง�น สร้�งร�ยได้แก่ชุมชน คุณสมร ภูผาศรี เลขานุการ สหกรณ์การเลี้ยง ปศุสัตว์ กรป. กลาง จ�ากัด ในฐานะผู้ท�างานให้กับ สหกรณ์ฯ มานานกว่า 35 ปี ได้เล่าถึงที่มาของ สหกรณ์ฯ ว่า “สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป. กลาง จ�ากัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปี พ.ศ. 2523 ที่บ้านโพนยางค�า ต�าบลโนนหอม อ�าเภอเมือง เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/ ponyangkhrambreedingcooperative โทร. : 042 704677 อีเมล : ponyangkharm@hotmail.com จังหวัดสกลนคร เพื่อผลิตเนื้อโคคุณภาพ โดยย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2519 สมัยนั้นกอง อ�านวยการกลางรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (กรป.กลาง) ปัจจุบันคือหน่วยบัญชาการทหาร พัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทยต้องการ หาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้กับคนท้องถิ ่ น จึงได้ขอความร่วมมือจากสถานฑูตฝรั่งเศส เชิญคุณฟรังซัว แดรโฟซ์ (Francois Dervaux) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเลี้ยงวัวมาเป็นผู้วางรากฐาน ต่างๆ ให้ ตั้งแต่เรื่องการผสมพันธุ์เทียม การคัดเลือกสายพันธุ์ฝรั่งเศส ชาโรเลส์ (Charolais cattle) ที่มีอัตราการเจริญเติบโตดี เชื่อง และอารมณ์ดี ให้เป็นสายพันธุ์หลักของ สหกรณ์ฯ มีการท�าอาหารเสริมให้วัวจากธัญพืช การเกษตรในท้องถิ ่ น การส่งเจ้าหน้าที่ไปเรียนรู้วิธี การตัดแต่งที่ประเทศฝรั่งเศส โดยแบ่งชิ ้ นส่วน ของเนื้อ เป็น 17 ชิ้น จากนั้นก็หาตลาด และจัดตั้ง สหกรณ์ขึ้น ซึ่งเริ่มแรกนั ้ นมีสมาชิกอยู่ 50 ราย จนปัจจุบันเรามีสมาชิกอยู่ 6,212 ท่านและมีวัว ที่จดทะเบียนกับเราจ�านวนกว่า 12,000 ตัว” ฝ่�ฟันอุปสรรคสู่ก�รยอมรับในเวที ระดับโลก คุณสมรเล่าว่า ช่วงแรกๆ ผู้บริโภคซึ่งเป็น ชาวบ้านยังไม่ค่อยยอมรับในตัวสินค้าด้วยเพราะ ยังขาดความรู้ความเข้าใจ “เนื้อโคขุนโพนยางค�า ของเราเป็นเนื้อบ่มค่ะ คือแช่ในห้องเย็นอุณหภูมิ 2-4 องศาเซลเซียส อยู่ 7 วัน เพื่อให้ได้เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ�่า มีกลิ ่ นหอมและรสอร่อยลุ่มลึกขึ้น จากนั้น จึงน�าออกมาตัดแต่งส่งขาย ซึ่งคนที่รู้จักเนื้อ ลักษณะนี้ก็จะรู้สึกพอใจเพราะเนื้อมีคุณภาพ เทียบเท่ากับต่างประเทศ แต่ส�าหรับชาวบ้านแถบนี้ ในสมัยก่อนยังไม่รู้จัก ก็จะไม่ชอบเพราะรู้สึก ไม่สดใหม่ ตอนนั้นเราเลยต้องเปิดเป็นร้านอาหาร เพื่อสร้างความเข้าใจให้คนในแถบนี้ได้รู้ว่าเนื้อ ที่ผ่านการบ่มสามารถปรุงเมนูท้องถิ่นได้อร่อยนะ ท�าก้อย ลาบ ต้ม ย่างได้ อีกทั้งเรายังขายเมนูสเต็ก ในราคาถูกๆ จานละ 59 -79 บาท เพื่อให้เขาได้รู้จัก และลิ ้ มลองด้วยตนเอง สมัยนั้นคุณฟรังซัวมีแนวคิดว่าหากเราผลิต สินค้าที่มีคุณภาพ อยู่ไหนคนก็จะมาหาเราเอง ซึ่งมาตรฐานต่างๆ และการได้รับขึ้นทะเบียน สิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ในปี พ.ศ. 2559 ก็ช่วยยกระดับความเชื่อมั่นให้ ผู้บริโภคได้ว่าสินค้าเราได้มาตรฐาน ท�าให้มี กลุ่มลูกค้าหลากหลาย และมีการตัดสินใจซื้อ ง่ายขึ้น กลายเป็นสินค้าสร้างชื่อประจ�าจังหวัด มีงานเทศกาลโคขุนโพนยางค�า และยังมีโอกาสได้ ไปประกอบอาหารในงานเลี้ยงของผู้น�าเขต เศรษฐกิจ (การประชุม APEX 2022) ปัจจุบันเรามีสถานที่จ�าหน่าย 5 สาขาคือ ที่สหกรณ์ฯ ซึ่งเป็นส�านักงานใหญ่ สาขาในเมือง สกลนคร สาขาวานรนิวาส สาขาปทุมธานี และ สาขาสุขุมวิท 33 นอกจากนี้ยังขายในห้างโมเดิร์น เทรดและกลุ่มร้านอาหารต่างๆ ในประเทศไทย ไม่มี การส่งขายต่างประเทศ สานต่อแนวคิดเดิมของ สหกรณ์ฯที่ตั้งใจผลิตสินค้าดีๆ ให้คนไทยได้ ทานเนื้อคุณภาพ ปลอดภัย ในราคาที่จับต้องได้ รวมทั้งยังส่งผลให้สมาชิกสหกรณ์ฯ มีอาชีพเสริม มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีการสร้างอาชีพให้กับชุมชน ใกล้เคียง และยังเป็นต้นแบบให้เกิดกลุ่มสหกรณ์ เกิดกระจายรายได้สู่ชุมชนอื่นๆ เพิ ่ มขึ้นอีกด้วย” สมร ภูผาศรี เนื ้ อโคขุนโพนยางค�า เนื ้ อจ�กแดนอีส�น สู่ตำ�น�นเนื ้ อโคขุนคุณภ�พที ่ ทั ่ วโลกยอมรับ คุณสมร ภูผ�ศรี เลข�นุก�ร สหกรณ์ก�รเลี้ยงปศุสัตว์ กรป . กล�ง จำ�กัด07 ฉบับที ่ 5 เดือนเมษายน 2566 (ความสำาเร็จผู้ประกอบการ GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/ granmonte โทร. : 092 806 7755 อีเมล : marketing@granmonte.com กราน-มอนเต้ ผู้บุกเบิกธุรกิจไวน์ไทย ที่ริเริ ่ ม ท�าขึ้นโดยคนไทย บนผืนแผ่นดินไทย แต่สามารถ โด่งดังไกลบนเวทีระดับนานาชาติ ไวน์เขาใหญ่ (khao Yai Wine) เป็นไวน์ที่ท�า จากการหมักน�้าองุ่นสดสายพันธุ์ Vitis Vinifera ที่ปลูก เก็บเกี่ยว และผ่านกระบวนการท�าไวน์ตาม มาตรฐานที่ก�าหนด ในขอบเขตพื้นที่แหล่ง ภูมิศาสตร์ไวน์เขาใหญ่ในอ�าเภอปากช่อง และ อ�าเภอวังน�้าเขียว ของจังหวัดนครราชสีมา นอกเขตป่าอนุรักษ์ โดยไวน์เขาใหญ่มีลักษณะใส ไม่มีความขุ่น มีสี กลิ ่ น สัมผัสในปากและรสชาติ ที่แสดงถึง ลักษณะของพันธุ์องุ่นต่างๆ ไวน์จากองุ่นเปลือกสีขาว จะมีความหอมเหมือนผลไม้เมืองร้อน ผลไม้สุก ชนิดต่างๆ และดอกไม้ ขณะที่ไวน์จากองุ่นเปลือก สีแดง จะมีสีเข้ม มีกลิ ่ นเหมือนผลไม้สีแดงสุก ผลไม้เปลือกสีด�า สัมผัสในปากแสดงถึงแทนนิน ปานกลางถึงสูง ซึ่งมีลักษณะทางกายภาพและ ลักษณะทางเคมี จะแยกตามประเภทสินค้า ได้แก่ ไวน์ขาว ไวน์แดง ไวน์โรเซ่ ไวน์สปาร์คลิ่ง และ ไวน์หวาน กร�น-มอนเต้ บุกเบิก สร้�งสรรค์ สู่ตำ�น�นไวน์เข�ใหญ่ คุณสุวิสุทธิ์ โลหิตนาวี จาก GranMonte Vineyard and Winery เล่าถึงไวน์เขาใหญ่ กราน-มอนเต้ ว่า “เราซื้อที่มาปลูกองุ่นเพื่อท�าไวน์ ในปี พ.ศ. 2542 บนพื้นที่ 100 ไร่นี้แบ่งเป็นพื้นที่ เพาะปลูกประมาณ 70 กว่าไร่ นอกเหนือจากนั้นเป็น ส่วนของไวน์เนอรี สิ่งปลูกสร้างธุรกิจท่องเที่ยว อย่างเช่น ร้านอาหาร และที่พัก โดยหลังจากได้ ทดลอง เรียนรู้ คัดเลือก และรังสรรค์อยู่นาน กราน-มอนเต้ ก็สามารถผลิตไวน์วินเทจตัวแรกขึ้น มาได้ในปี พ.ศ. 2552 และปัจจุบันกราน-มอนเต้ ผลิตไวน์มาแล้ว 26 ฉลาก ถือว่าเยอะมาก และปีนี้ น่าจะเพิ่มเป็น 28 เราจะท�าฉลากใหม่ออกมาเรื ่ อยๆ ด้วยเพราะการก�าหนดค�านิยามของไวน์เขาใหญ่ GI ที่เปิดกว้างต่อการทดลอง องุ่นไวน์สายพันธุ์ Vitis vinifera ที่ทดลองตามกรรมวิธีทางด้าน วิทยาศาสตร์ถูกต้องและปลอดภัย ก็สามารถท�าไวน์ ฉลากใหม่ออกมาได้เรื ่ อยๆ รวมทั ้ งไวน์เมกเกอร์ ของเรา คุณวิสุตา โลหิตนาวี ก็สนุกและชอบที่จะ ทดลองท�าไวน์จากองุ่นพันธุ์ใหม่ ได้ทดลองเบลนด์ หรือสไตล์การท�าไวน์ใหม่ๆ ส่งผลให้เราสามารถ พัฒนาสินค้าออกมาเป็นไวน์ฉลากใหม่ได้ทุกปี ภายใต้ปรัชญาการท�าไวน์ที่ต้องการคงคาแรกเตอร์ ขององุ่นแต่ละสายพันธุ์ให้ได้มากที่สุด” อุปสรรคผลักดันให้สร้�งตัวตน จนกล�ยเป็นไวน์เข�ใหญ่อันดับหนึ่ง ของประเทศไทย การท�าธุรกิจไวน์นั้นมีต้นทุนค่อนข้างสูง และ มีข้อจ�ากัดในการท�าการตลาด กราน-มอนเต้ จึงใช้ วิธีการท�าตลาดที่หลากหลายเพื่อให้เป็นที่ยอมรับ และรู้จักมากขึ้น โดยมุ่งเน้นไปทางด้านการ ท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดการสัมผัส เรียนรู้ และ ถ่ายทอดประสบการณ์ตรงแบบปากต่อปาก การส่งไวน์ไปแข่งขันในเวทีต่างประเทศจนได้รับ รางวัลมากมายและกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง อีกหนึ่งปัจจัยที่ท�าให้ ไวน์เขาใหญ่ ได้รับความสนใจ มากขึ้นก็คือการได้รับขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ ทางภูมิศาสตร์ในปี พ.ศ. 2561 ติดตรา GI บนขวดไวน์ทุกขวดของเรา เป็นการฝังคุณค่า เข้าไปในสินค้า เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคว่า ไวน์เขาใหญ่ที่กรานต์มอนเต้ผลิต มีเอกลักษณ์ มีความสร้างสรรค์ และการพัฒนา เป็นความลงตัว ของการผสมผสานศาสตร์และศิลป์ ที่อยากให้ ทุกคนได้สนุกและภูมิใจกับสินค้าของคนไทยที่ ผลิตขึ้นมาในเมืองไทยส�าหรับคนไทย นอกจากนี้กรมทรัพย์สินทางปัญญายังช่วย สนับสนุนเราในการขอขึ้นทะเบียน GI “ไวน์เขาใหญ่” ในสหภาพยุโรป ในปี พ.ศ. 2565 รวมทั้งการ ได้ร่วมท�างานกับองค์กรรัฐต่าง ๆ ทั้ง ททท. และ ล่าสุดกับกระทรวงต่างประเทศ ที่ได้คัดเลือกไวน์ ของเราเพียงเจ้าเดียวส�าหรับต้อนรับผู้น�า เขตเศรษฐกิจ เอเปค 2022 ดังนั ้ นถ้ามองในแง่ ของการนิยามไวน์ไทยว่าเป็นสิ ่ งที่ท�าจากองุ่นไวน์ ปลูกและท�าในประเทศไทยเท่านั้น กราน-มอนเต้ ก็ถือว่าเป็นที่หนึ่งในเรื่องของทั้งปริมาณ คุณภาพ และชื่อเสียง ตอนนี้เรามีจุดจ�าหน่ายที่หลากหลาย จุดหลักเลยก็คือที่หน้าไร่ เพราะเป็นสถานที่ ท่องเที่ยวหลักในเขาใหญ่ แล้วก็เป็นจุดที่เราให้ ความรู้เกี่ยวกับสินค้าได้โดยตรง รวมทั้งจัดจ�าหน่าย ไปตามร้านอาหารและโรงแรมระดับ 5 ดาวทั้งใน กรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ๆ ในประเทศ ด้วยเราตั้งใจ อยากจะให้แบรนด์เป็นตัวเลือกไวน์ที่ผลิต ในประเทศ ให้คนในประเทศได้ดื่ม ส่วนทางด้าน การส่งออกจึงมีไม่เกิน 100% ของปริมาณ การผลิตเพียงเท่านั้น สุวิสุทธิ ์ โลหิตนาว ี ไวน์เขาใหญ่ กราน-มอนเต้ สินค้� GI ไทยที ่ มีชื ่ อเสียงระดับน�น�ช�ติ คุณสุวิสุทธิ ์ โลหิตน�วี ผู้อำ�นวยก�รฝ่�ยก�รตล�ดและประช�สัมพันธ์GI Thailand Magazine 08 GI & CO (พันธมิตร GI) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย ด้วยเพราะท�าธุรกิจที่มีความเกี่ยวเนื่องกันอย่าง ขาดไม่ได้ ท็อปส์ เดสติเนชั่นที่ตอบโจทย์ทุก ความต้องการด้านสินค้าอาหารระดับประเทศ จึงรังสรรค์โครงการ “ตลาดจริงใจ FARMERS’ MARKET” เพื่อร่วมผลักดันผลผลิตคุณภาพของ เกษตรกรไทยให้มีพื้นที่จ�าหน่ายสินค้า สร้างรายได้ ให้ครัวเรือนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน คุณไพโรจน์ คล้ายแก้ว Head of Local Sourcing & Jing Jai Market, เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล ในเครือ เซ็นทรัล รีเทล เล่าให้ฟังถึงโครงการ ตลาดจริงใจ FARMERS’ MARKET ซึ่งอยู่ภายใต้ การดูแลของท็อปส์ว่า “โครงการนี้เริ ่ มต้นมาเมื่อ 5 ปีที่แล้วครับ เพื่อสนับสนุนให้เกษตรกร ในท้องถิ่นมีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมุ่งมั ่ นพัฒนาทักษะในการค้าขายให้เกษตรกร ก่อเกิดเป็นรายได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน สาขาแรก เราเปิดที่จังหวัดอุดรธานี จากนั้นก็ขยายต่อไป 32 สาขาในเซ็นทรัลและโรบินสันทั่วประเทศ มีในกรุงเทพฯ 4 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล เวสเกต, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ และเป็นแฟลกชิปสโตร์คือ เซ็นทรัลเวิลด์และเซ็นทรัล บางนา ซึ่งถือว่าเป็น จุดศูนย์รวมของดีของเด่นทุกๆ ภาค ทั้งผักสด ผลไม้สด สินค้าแปรรูป และอาหารพร้อม รับประทานที่ผลิตขึ้นในพื้นที่นั้นๆ โดยเปิดพื้นที่ ของท็อปส์เพื่อให้เกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย ในท้องถิ ่ นน�าผลผลิตของตนมาจ�าหน่ายที่ ตลาดจริงใจ FARMERS’ MARKET โดยสินค้าที่ถูกน�ามาขายล้วนเป็นสินค้าที่ทีม จัดซื้อของ ท็อปส์ ประจ�าภูมิภาค ได้เข้าไปติดต่อ โดยตรงกับเกษตรกรท้องถิ่น รวมทั ้ งเกษตรกร ในท้องถิ ่ นก็ติดต่อเพื่อน�าสินค้าเข้ามาขายด้วยตัวเอง แต่สิ ่ งส�าคัญที่ลืมไม่ได้เลยก็คือ ต้องเป็นสินค้า ปลอดภัยและมีคุณภาพ นอกจากนี้ต้องมีความสด มีปริมาณเพียงพอเพราะเราต้องเติมสินค้าบ่อยๆ ยกเว้นสินค้าตามฤดูกาล เช่น ผลไม้ ก็ต้องยึดตาม ฤดูกาล และยึดตามผลผลิตของท้องถิ่นนั้นๆ เป็นส�าคัญ นอกจากนี้ยังมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ทางภูมิศาสตร์ GI เข้ามาจ�าหน่ายประมาณ 20% เพราะสินค้า GI เป็นสินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะในแหล่งพื้นที่นั้นๆ อีกทั้งยัง เป็นสินค้าที่ดีได้รับการสนับสนุนจากกรมทรัพย์สิน ทางปัญญา จึงเชื่อถือได้ในเรื่องของคุณภาพ ท็อปส์ ในฐานะผู้จ�าหน่ายสินค้าก็พยายามผลักดันและ ส่งเสริมให้ผู้บริโภคคนไทยได้รับประทานสินค้า ปลอดภัย สัมผัสรสชาติที่มีประจ�าถิ่น ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ หรือแม้แต่สินค้าแปรรูปทั ้ งหลาย ปีที่แล้ว เราขายสินค้า GI 97 รายการ จากจ�านวนสินค้า ที่ขึ้นทะเบียนทั้งหมด 185 รายการ และก�าลัง รอด�าเนินการอีกจ�านวนมาก ปีนี้เราจึงมีความตั้งใจ จะหาสินค้า GI เข้ามาจ�าหน่ายให้ได้มากที่สุด ประมาณ 127 รายการ” นอกจากนี้คุณไพโรจน์ยังกล่าวเสริมว่าสินค้า GI ไม่ได้มีขายเฉพาะในตลาดจริงใจ FARMERS’ MARKET เท่านั้น ก็ยังสามารถน�าเข้าไปจ�าหน่าย ใน ท็อปส์ ที่มีสาขาทั่วประเทศได้อีกด้วย เพราะ “ผลไม้เมืองร้อนเป็นสินค้าที่มีปริมาณมากครับ นอกจากจ�าหน่ายในตลาดจริงใจ FARMERS’ MARKET แล้ว ยังมีจ�าหน่ายที่ ท็อปส์, ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ ไฟน์ ฟู้ด สินค้าที่มีจ�าหน่าย ตลอดทั้งปี เช่น ส้มโอมีทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นส้มโอ ทับทิมสยามปากพนัง ส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท และมะม่วงน�้าดอกไม้คุ้งบางกระเจ้า มะขามหวาน เพชรบูรณ์ รวมทั้งทุเรียนนนท์และทุเรียนต่างๆ เป็นสินค้าที่มีจ�าหน่ายเฉพาะฤดูกาล ซึ่งสินค้า ทั้งหมดเราได้คัดสรรจากแหล่งผลิตที่ดีที่สุด และรับซื้อตรงจากเกษตรกรเพื่อสร้างรายได้ สร้างอาชีพอย่างยั ่ งยืน รวมทั ้ งต่อยอดด้วยการ สรรหาสินค้า GI ใหม่ๆ มาจ�าหน่ายให้มากที่สุด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตลอด ทั้งปี” พร้อมกันนี้คุณไพโรจน์ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึง โครงการประชาสัมพันธ์สินค้า GI ที่จะจัดต่อเนื่อง เพื่อเกษตรกรท้องถิ ่ นว่า “ตลาดจริงใจ FARMERS’ MARKET ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา จัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อโปรโมตสินค้า GI ให้ผู้บริโภค ได้รู้จักและเลือกซื้อสินค้า GI มากขึ้น ณ ตลาดจริงใจ FARMERS’ MARKET ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั ้ น 1 เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมของสินค้า GI ใครที่ต้องการ สินค้า GI ก็สามารถมาดูที่นี่ได้เลย โดยจัดกัน ในวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมาเป็นครั้งแรก รอบต่อไป เราจะจัด ตลาดจริงใจ FARMERS’ MARKET ที่เซ็นทรัลบางนา และวางแผนจะไปจัดอีกหลายพื้นที่ เพื่อให้คนไทยเองได้เข้าถึงและรู้จักสินค้า GI ได้มากขึ้นครับ” ตลาดจริงใจ FARMERS’ MARKET ตล�ดสินค้�คุณภ�พของเกษตรกรไทย คุณไพโรจน์ คล้�ยแก้ว Head of Local Sourcing & Jing Jai Market, Central Food Retail Co., Ltd09 ฉบับที ่ 5 เดือนเมษายน 2566 SPECIAL ARTICLE (บทความพิเศษ) วารสารสิ ่ งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย กรมทรัพย์สินท�งปัญญ� ร่วมต้อนรับสุดยอดผู้นำ�ในก�รประชุมเอเปค 2022 ที ่ ไทยเป็นเจ้�ภ�พ ด้วย 8 สินค้� GI ไทย ผ่�นเมนูอ�ห�รอันเป็นอัตลักษณ์ มุ่งส่งเสริมสินค้� GI ไทยเป็นที ่ รู้จักใน วงกว้�ง สร้�งโอก�สท�งก�รค้�ทั ้ งในและต่�งประเทศ และสร้�งร�ยได้ให้เกษตรกรและผู้ประกอบก�ร อย่�งยั ่ งยืน 8 สินค้า GI สู่บทบาทซอฟท์พาวเวอร์บนเวทีเอเปค 2022 นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สิน ทางปัญญา เปิดเผยว่า การที่ประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ครั ้ งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสส�าคัญในการเผยแพร่ อัตลักษณ์และคุณภาพของสินค้าสิ ่ งบ่งชี้ทาง ภูมิศาสตร์ หรือ GI ไทย ให้เป็นที่รู้จักในระดับ นานาชาติ โดยเฉพาะผู้น�าจาก 21 เขตเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลได้คัดเลือกสินค้า GI เข้ามามีส่วนร่วม ในการประชุมดังกล่าวเพื่อน�าเสนออัตลักษณ์ ความเป็นไทย ผ่านเมนูอาหาร ที่อาศัยวัตถุดิบ GI ประกอบด้วย ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ เนื้อโคขุน โพนยางค�า ปลากุเลาเค็มตากใบ กล้วยหอมทอง พบพระ ส้มโอนครชัยศรี ไข่เค็มไชยา และไวน์เขาใหญ่ นอกจากนี้ยัง ได้น�าผ้าไหมปักธงชัย มาทอเป็นของ ที่ระลึกแก่ผู้น�าเอเปค เช่น เนคไท ผ้าคลุมไหล่ ฯลฯ น�ามาซึ่งความภาคภูมิใจของเกษตรกรและ ผู้ประกอบการท้องถิ ่ นที่ได้มีส่วนร่วมเป็นเจ้าภาพ ต้อนรับ 21 ผู้น�าเขตเศรษฐกิจจากทั่วโลก อีกทั้ง ยังช่วยสร้างโอกาสทางการค้า กระตุ้นยอดขายและ สร้างรายได้รับการเปิดประเทศอย่างแท้จริง ทั้งนี้ สินค้า GI ทั้ง 8 รายการ ล้วนเป็นสินค้าที่ มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค โดย ที่ผ่านมาสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ชุมชนท้องถิ่นรวมกว่า 820 ล้านบาทต่อปี ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญา และหน่วยงานพันธมิตร พร้อมเดินหน้าส่งเสริม สินค้า GI โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียนในต่างประเทศ เพื่อให้สินค้าไทยได้รับการคุ้มครองในตลาดการค้า ที่ส�าคัญ รวมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่าง ยั่งยืนต่อไป กล้วยหอมทองพบพระ กล้วยหอมทอง ที่มีผลโค้งคล้ายรูปตัว แอล (L) ปลายผล มีจุกคล้ายปลายดินสอ เปลือกบาง ผลสุก สีเหลืองทองสม�่าเสมอ เนื้อแน่น เหนียวหนึบ รสชาติหวานหอม ปลูกในเขตพื้นที่อ�าเภอ พบพระ จังหวัดตาก 8 สินค้า GI บนเวทีเอเปค ข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาร้องไห้ ข้าวเปลือก ข้าวกล้องและข้าวขาว ที่มาจากข้าว พันธุ์ขาว ดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข 15 ซึ่งปลูกใน พื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ในฤดูนาปี เมล็ดข้าวหอม ยาว เรียว เมื่อหุงสุกจะมี กลิ ่ นหอมตาม ธรรมชาติ และนุ่ม ไข่เค็มไชยา ไข่แดงร่วนเป็นทราย มีความมัน ไข่ขาวนุ่ม รสไม่ เค็มจัด ผลิตด้วยกรรมวิธีพิเศษตาม ภูมิปัญญาในเขตพื้นที่อ�าเภอไชยา จังหวัด สุราษฎร์ธานี เนื้อโคขุนโพนยางค�า เนื้อโคขุนคุณภาพสูงที่ ผลิตจากโคเนื้อลูกผสมระหว่างโคสายพันธุ์ยุโรป กับโคสายพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งผ่านกระบวนการเลี้ยง การแปรสภาพและตัดแต่งอย่างถูกสุขลักษณะ ตามมาตรฐานสากล ผลิตในจังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนมใน 8 อ�าเภอ จังหวัดมุกดาหาร ใน 4 อ�าเภอ จังหวัด บึงกาฬ 1 อ�าเภอ ปลากุเลาเค็มตากใบ เจ้าของสมญานาม ราชา แห่งปลาเค็ม ปลาเค็ม รสชาติไม่เค็มจัด เนื้อแน่น เมื่อทอดสุกจะฟู มีกลิ ่ นหอมเป็นเอกลักษณ์ ซึ่ง ผลิตจากปลากุเลาสดตามกรรมวิธีที่สืบทอดกัน มาในพื้นที่อ�าเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส ผ้าไหมปักธงชัย ผ้าไหมพื้นหรือ ผ้าชิ้น ทอด้วย กี่กระตุก 2 ตะกอ มีความกว้างของผ้าไหม ไม่ต�่ากว่า 40 นิ้ว เนื้อผ้าหนาแน่น มันวาว สีคงทน ทอตามกรรมวิธีที่ประณีตอันเป็น มรดกทางหัตถกรรมที่สืบทอดกันมาในเขต พื้นที่อ�าเภอปักธงชัยจังหวัดนครราชสีมา ไวน์เขาใหญ่ ไวน์ที่ท�าจากการหมักน�้าองุ่น สดสายพันธุ์ Vitis Vinifera ที่ปลูก เก็บเกี่ยวและผ่านกระบวนการท�าไวน์ตาม มาตรฐานที่ก�าหนด ในขอบเขตพื้นที่แหล่ง ภูมิศาสตร์ไวน์เขาใหญ่ อ�าเภอปากช่อง และ อ�าเภอวังน�้าเขียว จังหวัดนครราชสีมา ส้มโอนครชัยศรี ส้มโอพันธุ์ทองดี และพันธุ์ ขาวน�้าผึ้ง รสชาติหวานอมเปรี้ยว เมื่อรับประทาน แล้วไม่มีรสขมรสซ่า ซึ่งปลูก ในอ�าเภอนครชัยศรี อ�าเภอ สามพรานและอ�าเภอ พุทธมณฑลของจังหวัดนครปฐมNext >